1. การยกระดับดิจิทัลของฝ่าย HR และการทำงานแบบ Agile
ผู้นำจากองค์กรระดับโลก เช่น Visa, CapitaLand Investment และ Maersk ต่างเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนา “Digital Maturity” ของ HR โดยไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงการออกแบบกระบวนการให้สามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่น (Agile) และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในโลกที่ Smart Technology กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
2. ทักษะที่จำเป็นสำหรับการบริหาร Talent ในโลกที่เปลี่ยนแปลง
ผู้บริหาร HR เห็นพ้องกันว่า ความเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้งเป็นทักษะพื้นฐานที่ HR ต้องมี เพื่อสามารถวิเคราะห์และกำหนดได้ว่าบุคลากรแบบใดที่องค์กรต้องการจริง ๆ การนำข้อมูลมาใช้ร่วมกับทักษะทาง HR จึงเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการ Talent อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้ การสื่อสารกับพนักงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและความคาดหวังขององค์กรยังเป็นทักษะสำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมในกระบวนการเปลี่ยนแปลง
3. การผสานเทคโนโลยีกับ “Human Connection”
แม้ว่า Automation และ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในหลายกระบวนการ เช่น การสรรหาและคัดเลือกบุคลากร (Recruitment) หรือ การประเมินผล (Assessment) แต่สิ่งที่ไม่สามารถทดแทนได้คือ “ความเป็นมนุษย์” ในการตัดสินใจและเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับผู้สมัครหรือพนักงานตัวอย่างเช่น การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลผู้สมัครอาจช่วยจัดกลุ่มหรือกรองเบื้องต้นได้ แต่ HR ยังจำเป็นต้องพิจารณาบริบทเชิงพฤติกรรมและแรงจูงใจ ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพที่ระบบอาจไม่สามารถแยกแยะได้
4. ความซับซ้อนของข้อมูล และการใช้ AI อย่างชาญฉลาด
ในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง HR ต้องจัดการกับข้อมูลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากระบบ Recruitment, Chatbot, หรือ HRIS การใช้ AI จึงควรเน้นไปที่การ สกัด Insight มากกว่าการทำงานแบบอัตโนมัติ เช่น การวิเคราะห์คำถามที่พนักงานค้นหาในระบบ เพื่อสะท้อน Pain Point ที่แท้จริง และออกแบบประสบการณ์พนักงาน (Employee Experience) ให้เหมาะสม
5. บทบาทของ HR ในฐานะ "Voice of Employee" และผู้สร้างคุณค่า
หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจคือ บทบาทของ HR ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การบริหารจัดการทั่วไปอีกต่อไป แต่ต้องเป็นผู้สะท้อนเสียงของพนักงาน (Voice of Employee) และสร้าง “Value Added” ให้แก่องค์กร โดยใช้ Data และ HR Analytics เป็นเครื่องมือหลัก
การส่งเสริมให้บุคลากร HR มีความเข้าใจในข้อมูล พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับ Psychological Safety จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน
6. ความคล่องตัวขององค์กร และการออกแบบการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์
แนวคิด “หากเราไม่ Disrupt ตัวเอง เราจะถูก Disrupt” ถูกนำเสนอโดยผู้ร่วมเสวนาในฐานะข้อเตือนใจสำคัญต่อการบริหารการเปลี่ยนแปลงในองค์กร การนำเทคโนโลยีหรือแนวคิดใหม่เข้ามาใช้ ควรเริ่มจากส่วนเล็ก ๆ และค่อย ๆ ขยายไปสู่ระบบใหญ่ โดยต้องมีภาพรวมที่ชัดเจนว่าใครควรมีบทบาทในแต่ละจุด เพื่อสร้างการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม (Create the Movement)
Industry 5.0 ไม่ได้หมายถึงโลกที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้าง “สมดุล” ระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี การปรับตัวของ HR สู่ยุคใหม่นี้จึงต้องผสานความเข้าใจธุรกิจ ความสามารถในการใช้ข้อมูล ทักษะทางเทคโนโลยี และความเข้าใจมนุษย์เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้องค์กรสามารถรับมือกับความท้าทายและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างยั่งยืน
ในยุคที่เทคโนโลยีและมนุษย์ต้องเดินเคียงข้างกัน องค์กรที่พร้อมปรับตัวด้วยความคล่องตัวทางดิจิทัลและความเข้าใจในทรัพยากรมนุษย์อย่างลึกซึ้งจะเป็นผู้นำในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง หากคุณคือผู้บริหารหรือผู้นำด้านทรัพยากรมนุษย์ที่มองหาแนวทางปฏิบัติที่ล้ำหน้าและแนวคิดเชิงกลยุทธ์ในการผสานเทคโนโลยีกับการบริหารคน ขอเชิญเข้าร่วมงานสัมมนาระดับประเทศที่จะพลิกโฉมวงการ HR ไทย