>
Psychological First Aid (PFA): การดูแลสุขภาพจิตพนักงานในองค์กรหลังแผ่นดินไหว
Article
September 4, 2024

Psychological First Aid (PFA): การดูแลสุขภาพจิตพนักงานในองค์กรหลังแผ่นดินไหว

เพราะ “แผ่นดินไหว” ไม่ได้สั่นสะเทือนแค่ผืนดิน... แต่กระทบถึง “หัวใจ” ของคนในองค์กร“ ในภาวะที่โลกเผชิญความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะจากภัยพิบัติ เหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือความสูญเสียในชีวิตประจำวัน สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือ ผลกระทบทางใจ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเวลานั้น แต่อาจสะสมและแสดงออกมาภายหลังเป็นวัน สัปดาห์ หรือแม้แต่หลายเดือน ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของ “ใจ” ของคนทำงาน

สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) ได้จัดสัมมนาเรื่อง “Psychological First Aid (PFA): การดูแลสุขภาพจิตพนักงานในองค์กรหลังแผ่นดินไหว”

โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ

• ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ (หมอแน็ต) รองโฆษกกรมสุขภาพจิต

• คุณสุดคนึง ขัมภรัตน์ นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย

• ดำเนินรายการโดย คุณพุฒิพัฒน์ อมรพิชญ์ปรัชญา

“การดูแลใจ” เริ่มได้ทันที แม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ – โดย หมอแน็ต

หมอแน็ต ได้อธิบายถึงแนวคิดของ Psychological First Aid (PFA) ว่าเป็น "การปฐมพยาบาลทางใจ"

ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทันทีหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรง เพื่อประคับประคองจิตใจของผู้เผชิญเหตุ

“PFA ไม่ใช่การวิเคราะห์ ไม่ใช่การบำบัด แต่คือการ ‘อยู่ตรงนั้น’ เพื่อให้เขารู้ว่า…เขาไม่ได้อยู่คนเดียว”

หลักการของ PFA: Look – Listen – Link

1. Look: สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น เงียบลง แยกตัว ไม่มีสมาธิ แต่งตัวซึมเศร้า น้ำหนักเปลี่ยน

2. Listen: รับฟังอย่างลึกซึ้งโดยไม่ตัดสิน แค่การได้เล่า ได้ระบายความรู้สึก ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยา

3. Link: เชื่อมโยงไปยังระบบช่วยเหลือ เช่น HR, สายด่วนสุขภาพจิต 1323, นักจิตวิทยา, EAP

สัญญาณ “Red Flag” ที่ HR ต้องรู้ทัน

พฤติกรรมที่ HR ควรสังเกต (Red Flags)

• เงียบ ไม่พูด ไม่ร่วมกิจกรรม

o อาจสะท้อนถึงความเศร้า ซึม หรือความเครียดสะสม

o เป็นสัญญาณว่าเขากำลังปิดกั้นตนเองจากโลกภายนอก

• ไม่มีสมาธิในการทำงาน

o บ่งชี้ถึงความวิตกกังวล ความเครียด หรือสภาวะที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

o อาจเริ่มส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน

• แต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่ดูแลตนเองเหมือนเคย

o เป็นสัญญาณเตือนว่าพนักงานอาจเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า หรือหมดแรงในการใช้ชีวิต

• น้ำหนักเปลี่ยนแปลงผิดปกติ (เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว)

o มักเกิดจากผลกระทบของความเครียดเรื้อรังที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินและการนอน

• แยกตัว ไม่เข้าสังคม

o อาจหมายถึงการปิดกั้นทางอารมณ์ ไม่พร้อมเปิดใจ หรือกำลังเผชิญกับความเครียดระดับสูง

สิ่งสำคัญคือ อาการเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้นในทันที หลังเหตุการณ์ แต่จะค่อยๆ ปรากฏในภายหลัง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ HR และหัวหน้างานต้องรู้จัก "สังเกตอย่างใส่ใจ"

เครื่องมือที่ HR นำไปใช้ได้ทันที

• Watjai.dmh.go.th – แบบประเมินสุขภาพจิต ความเครียด ความเสี่ยงซึมเศร้า

• Mood Tracker – บันทึกอารมณ์ประจำวัน

• Box Breathing – เทคนิคหายใจช่วยลดอาการ Panic

• Grounding Technique – เทคนิคจัดการเมื่อรู้สึกไม่มั่นคงทางใจ

• Talk Corner – จุดนั่งพูดคุยที่ไม่เป็นทางการ ให้คนได้ “ระบาย”

• Listening Hour – เวลาที่หัวหน้างานเปิดใจฟัง โดยไม่ให้คำแนะนำ

เพราะ “บางครั้ง…แค่เล่าก็เบาแล้ว”

เสียงจริงจากแนวหน้า – โดย คุณสุดคนึง ขัมภรัตน์

ในฐานะนายกสมาคมฯ และผู้คร่ำหวอดในแวดวง HR คุณสุดคนึงได้แบ่งปันประสบการณ์ตรงว่า “เหตุการณ์ครั้งนี้สอนเราว่า แผน BCP ที่องค์กรเตรียมไว้ อาจไม่ครอบคลุมเรื่อง ‘ใจ’ ของคนเลย”

จาก BCP สู่ HCP: Heart Care Plan

คุณสุดคนึงเสนอว่า องค์กรจำเป็นต้องมีแผน HCP (Heart Care Plan) ควบคู่กับ BCP ที่ครอบคลุมการฟื้นฟูทางใจ เช่น:

• พื้นที่พักใจ (Safe Zone)

• การอนุญาตให้ Work from Home ชั่วคราว

• อบรมหัวหน้าทีมเรื่อง PFA เบื้องต้น

• เวิร์กช็อปการฟัง การเข้าใจคน

บทบาทใหม่ของ HR: จาก “ผู้บริหารคน” สู่ “ผู้ดูแลใจ”

“การฟังไม่ใช่แค่ฟัง…แต่คือการมอบความมั่นคงทางใจให้คนๆ หนึ่งรู้ว่าเขาไม่ได้เผชิญอยู่คนเดียว”

คุณสุดคนึงเน้นย้ำว่า HR ต้องเปลี่ยนบทบาทจากการบริหารจัดการทั่วไป มาเป็นผู้สร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับพนักงาน โดยการสร้างวัฒนธรรม Well-being ครอบคลุม 7 มิติ ได้แก่:

1. กายภาพ

2. จิตใจ

3. จิตวิญญาณ

4. สังคม

5. สิ่งแวดล้อม

6. การเงิน

7. การงาน

“บางครั้ง สิ่งที่พนักงานต้องการไม่ใช่คำตอบ…แต่คือใครสักคนที่ ‘นั่งอยู่ตรงนั้น’ ด้วยใจที่เข้าใจเขาจริงๆ”

แนวทางปฏิบัติสำหรับองค์กร

การดูแลจิตใจพนักงานหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงเป็นภารกิจที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในยุคที่ความเปราะบางทางใจเกิดขึ้นได้ง่าย องค์กรสามารถนำแนวทางต่อไปนี้ไปปรับใช้ได้ทันที:

1. เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ PFA ให้กับทีม HR และหัวหน้างาน

เริ่มต้นจากการจัดอบรมเรื่อง Psychological First Aid โดยเน้นหลัก “Look–Listen–Link” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสังเกต รับฟัง และเชื่อมโยงพนักงานที่เผชิญภาวะวิกฤตไปยังระบบการช่วยเหลือที่เหมาะสม

2. วางระบบองค์กรที่รวมแผน HCP (Heart Care Plan) ควบคู่กับ BCP (Business Continuity Plan)

BCP ช่วยให้องค์กรเดินหน้าต่อได้ แต่ HCP คือแผนที่ช่วยให้ “คน” เดินหน้าต่อได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญเหตุการณ์ที่กระทบใจอย่างรุนแรง

3. เปิดพื้นที่สำหรับการสื่อสารและการระบายความรู้สึก

องค์กรควรมีมุม Talk Corner หรือจัดกิจกรรม Listening Hour เป็นประจำ เพื่อให้พนักงานมีโอกาสพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ ลดความอึดอัดใจ และสร้างความรู้สึกว่า “เราอยู่ตรงนี้เพื่อคุณ”

4. ติดตามและประเมินสุขภาพจิตของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ

แนะนำให้ใช้แบบประเมินสุขภาพจิตจากเว็บไซต์ watjai.dmh.go.th หรือจัดทำแบบประเมินภายในองค์กร เพื่อให้สามารถตรวจจับสัญญาณเตือน (Red Flag) ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

5. มีระบบการดูแลระยะยาวที่ยั่งยืน

องค์กรควรแต่งตั้งเจ้าหน้าที่อาสาทางใจ หรือผู้ประสานงานที่มีความเข้าใจด้านสุขภาพจิตในแต่ละหน่วยงาน เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อแรกเมื่อพนักงานต้องการความช่วยเหลือ

6. สนับสนุนการเรียนรู้ต่อเนื่องด้านสุขภาพจิตในที่ทำงาน

จัดเวิร์กช็อปหรือกิจกรรมเสริม เช่น การฝึก Grounding Technique, Box Breathing หรือการจัดการอารมณ์เบื้องต้น เพื่อให้พนักงานสามารถดูแลใจตนเองได้ และยังสามารถแบ่งปันให้เพื่อนร่วมงานได้เช่นกัน

“ความเข้าใจจากเพื่อนร่วมงานหนึ่งคน อาจเปลี่ยนความรู้สึกหมดหวังให้กลายเป็นความหวังได้อีกครั้ง”

การดูแลใจ ไม่ใช่หน้าที่ของหมอเพียงคนเดียว

แต่เป็นภารกิจร่วมกันของ “มนุษย์” ที่เห็นคุณค่าของ “มนุษย์” ด้วยกัน

Tag:
Article
Share this post:

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
Article
Powering People, Fueling Futures เพราะ “สุขภาวะของคน” ไม่ใช่แค่เรื่องของใจ ... แต่คือพลังขับเคลื่อนอนาคตทั้งองค์กรและสังคม
ในโลกของการทำงานที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน และการแข่งขันอย่างไม่หยุดยั้ง “คน” อาจดูเหมือนเป็นทรัพยากรที่ต้องปรับตัวให้ทันความเร็วของโลก แต่ในมุมกลับกัน องค์กรที่มอง “คน” เพียงแค่กลไกในการผลิตผลลัพธ์ ย่อมพลาดหัวใจของการเติบโตอย่างยั่งยืน
August 7, 2025
Article
JOBTOPGUN เปิดตัว Office 24 แพลตฟอร์มใหม่ที่เปลี่ยนพนักงานให้เป็น Brand Ambassador
จาก YOU SAY / HR SAY สู่ Office 24 วิวัฒนาการของ Employer Branding ในยุคดิจิทัลในงาน Thailand HR TECH 2025 JOBTOPGUN เว็บไซต์หางานชั้นนำของประเทศไทย ประกาศเปิดตัว Office 24 แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้าง Employer Branding ให้บริษัทไทยทุกขนาด โดยเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของ YOU SAY/ HR SAY ซึ่งเป็นระบบ HR TECH ที่ช่วยให้องค์กรสร้าง Employer Branding ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
August 3, 2025
Article
เมื่อ AI เปลี่ยนโฉมการจ้างงานในไทย: JOBTOPGUN ปฏิวัติวงการ HR ด้วย All-New Super Resume
ในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลก วงการการจ้างงานในประเทศไทยก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการพลิกโฉมครั้งใหญ่นี้ได้ ในงาน HR Tech Thailand 2025 คำถามที่สะเทือนใจ HR ทั่วประเทศคือ "เมื่อทั้งผู้สมัครและผู้คัดเลือกต่างใช้ AI เป็นอาวุธ แล้วใครจะเป็นผู้ชนะ?"
July 8, 2025