>
“ทำไม HR ต้องมีความกล้า” คำถามที่ท้าทายจาก Dave Ulrich
Article
October 5, 2025

“ทำไม HR ต้องมีความกล้า” คำถามที่ท้าทายจาก Dave Ulrich

ชื่อของ Dave Ulrich ได้เป็นที่ยอมรับจากนักบริหารและผู้นำจากทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งใน Guru ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาภาวะผู้นำที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในระดับที่ปรับโฉมการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ เพราะสิ่งที่ Dave Ulrich นำเสนอผ่านการเขียน การเดินทางไปบรรยายทั่วโลกด้วยมุมมอง แนวคิดที่ตกผลึกมาจากงานวิจัยอย่างลงลึกต่อเนื่อง ทำให้กรอบแนวคิดแต่ละช่วงเวลาของท่านได้สร้างแรงกระเพื่อมในวงการบริหารไปทั่วโลก

และมาปี 2568 นี้คำพูดที่สำคัญและท้าทายคนที่ทำงานในวงการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HR) ก็คือ HR ต้องมีความกล้าโดย Dave Ulrich ถึงกับนำไปเป็นชื่อหนังสือเล่มใหม่ที่อยู่ระหว่างการจัดทำที่ชื่อว่า“The Future of HR:  Leading with Courage to Create Sustainable Stakeholder Value (อนาคตของ HR : นำด้วยความกล้าเพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนอย่างยั่งยืน)”

คำถามสำคัญ 3 คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ

  • คำถามที่หนึ่ง : ทำไม HR จึงต้องมี“ความกล้า”
  • คำถามที่สอง เราจะมองเห็นได้อย่างไรว่า HR คนไหนมีความกล้า  
  •  คำถามที่สาม ทำอย่างไร HR จึงจะมีความกล้า

คำถามที่หนึ่ง :ทำไม HR จึงต้องมี “ความกล้า”

เหตุผลสำคัญที่ Dave บอกว่าถึงเวลาแล้วที่ HR จะต้องมีความกล้าก็ด้วยเหตุผลสองข้อคือ

หนึ่งบทบาท HR จะต้องเข้มข้นขึ้นในการผสานกลยุทธ์และหน่วยงานของ HR ให้มีความสอดคล้องกับคุณค่าที่ผู้มีส่วนได้เสียยึดถืออันจะนำไปสู่ผลลัพธ์สุดท้ายทางธุรกิจ

แผนภาพที่ 1 : การเชื่อมโยงของศักยภาพของคนในองค์กรเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ

ผลลัพธ์สำคัญที่สุดจากการกำหนดบทบาทหน้าที่ของ HR คือ การพัฒนาศักยภาพคนในองค์กร (Human Capability) เพื่อให้ส่งผลต่อผลลัพธ์ทางการธุรกิจ (ดังแผนภาพที่1)

โดยในช่วงแรก การลงทุนในทุนมนุษย์ (Human Capital) คือการลงทุนกับคนมากความสามารถ (Talent)+ ลงทุนการพัฒนาองค์กร + ลงทุนพัฒนาความเป็นผู้นำ+ ลงทุนกับ HR เมื่อดูภาพรวมแล้วจะสามารถคาดการณ์ได้ว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ดังนั้นการลงทุนในศักยภาพของมนุษย์อาจถือได้ว่าเป็นตัวชี้วัดนำ (Lead Indicator) ที่ส่งผลต่อตัวชี้วัดตาม (Lag Indicator) อันเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของธุรกิจ

พอมาถึงช่วงที่สอง เริ่มมองเห็นชัดว่าการเติบโตของรายได้มาจากการที่ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้นการที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือบริการเพิ่มมากขึ้นก็ขึ้นอยู่กับการได้รับประสบการณ์จากสินค้าหรือบริการนั้นโดย Dave Ulrich ได้ชี้ให้เห็นจากงานวิจัยว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ผ่าน 4แหล่ง คือ  (ดังแผนภาพที่ 2)

การเงิน (Financial) :เราสามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อการเติบโต และมีวินัยในการลิตสินค้าหรือบริการด้วยต้นทุนที่ต่ำลงอันจะนำไปสู่ราคาสินค้าหรือบริการที่สมเหตุสมผล

กลยุทธ์/การตลาด (Strategy/Marketing):เรามีสินค้า หรือบริการ และตำแหน่งทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เทคโนโลยี /การดำเนินงาน: เรามีระบบปฏิบัติการ มีเทคโนโลยี และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่าคู่แข่ง

ศักยภาพของคนในองค์กร: เรามีบุคลากรที่เก่งกว่า มีองค์กรที่เข้มแข็งกว่า และผู้นำที่ดีกว่าคู่แข่ง

แผนภาพที่ 2 : แหล่งการสร้างประสบการณ์ต่อลูกค้า 4 แหล่ง

และจากการทำวิจัยกับผู้บริหารของ Dave Ulruch พบว่าแม้ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรมและกลยุทธ์ของบริษัท แต่โดยภาพรวมแล้วผู้บริหารที่เข้าร่วมการทำวิจัยให้ความเห็นว่าการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าให้นำหนักกับ “ศักยภาพของคนในองค์กร” ด้วยคะแนนอยู่ที่ 30 ถึง40 คะแนนจาก 100 คะแนน ซึ่งสะท้อนได้ว่าเมื่อลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีกับองค์กรอันเนื่องจากศักยภาพของคนทำงาน ลูกค้าก็จะซื้อสินค้ามากขึ้นอันจะส่งผลให้ผลลัพธ์ทางการเงินของธุรกิจเพิ่มมากขึ้นด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งการให้คุณค่าของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยึดถืออย่างเช่น ลูกค้า เป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ทางธุรกิจในอนาคต  

ในช่วงที่สามผลต่อเนื่องจากช่วงที่สองที่แสดงให้เห็นว่าคุณค่าที่ลูกค้ายึดถือเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ทางธุรกิจในอนาคตจึงทำเกิดภาพที่เชื่อมโยงได้ว่า “ศักยภาพของคนในองค์กรเป็นตัวขับเคลื่อนคุณค่าที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยึดมั่นอันจะนำไปสู่ผลลัพธ์สุดท้ายของธุรกิจ (Lag Business Result)” โดย Dave Ulrich ได้ให้แนวทางในการหล่อหลอมคุณค่าที่ผู้มีส่วนได้เสียยึดถือเข้าไปในการพัฒนาศักยภาพของคนในองค์กรดังนี้

หนึ่ง มองไปข้างหน้าเพื่อดูว่าอะไรกำลังเป็นตัวกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมและตำแหน่งาทางธุรกิจขององค์กรของของเราในระบบนิเวศทางธุรกิจ

สอง เข้าไปร่วมมือเสมือนเป็นหุ้นส่วนกับผู้มีส่วนได้เสียในองค์กรซึ่งเป็นผู้กำหนดมูลค่าที่ผู้มีส่วนได้เสียยึดถือ

สาม แม้เป็น HR แต่ควรใช้เวลาอยู่กับลูกค้านักลงทุน และคนในชุมชนแวดล้อมบริษัทซึ่งเป็นผู้กำหนดมูลค่าที่ผู้มีส่วนได้เสียยึดถือ

โดย“ความกล้า” ที่จะทำให้การผสานกลยุทธ์และหน่วยงานของ HR ให้มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่นำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเงินก็คือ HR จะต้อง“กล้า” ก้าวข้ามวิธีการทำงานที่เป็นความคุ้นชินแบบเดิม ๆ (Comfort Zone) ที่จะมองเฉพาะขอบเขตงาน HR หรือมองเพียงลูกค้าภายในคือ พนักงานและผู้บริหารแต่ให้มองไกลไปถึงผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดทั้งผู้ถือหุ้น ทั้งคนในชุมชนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าภายนอกที่จะซื้อสินค้าและบริการจากเรา แล้วเข้าหาเข้าไปมีส่วนร่วม เข้าไปรับรู้สิ่งที่เป็นค่านิยมที่ผู้มีส่วนได้เสียเพื่อจะได้นำมาออกแบบกลยุทธ์และออกแบบการพัฒนยาศักยภาพของคนให้ตอบสนองต่อคุณค่าดังกล่าว

สองหน่วยงาน HR พึงมีคุณลักษณะ 10 ประการของหน่วยงาน HR ที่ทรงประสิทธิภาพในอันจะส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร (Stakeholder)

จากการทำวิจัยและทวนสอบหลายรอบของ Dave Ulrich พบว่าหน่วยงาน HR ที่ทรงประสิทธิภาพในการจะส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร (Stakeholder) นั้น จะมีทั้งหมด 10 ข้อ(ดังแผนภาพที่ 3) กล่าวคือ

1.     ชื่อเสียงของ HR (HR Reputation)

  • หมายถึง ภาพลักษณ์ ภาพพจน์ และอัตตลักษณ์ของ HR
  • คำถามสำคัญ “HR ได้รักษาชื่อเสียงเพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียหรือไม่”

2.     ลูกค้าของ HR (HR Customers)

  • หมายถึง ผู้มีส่วนได้เสียอันประกอบด้วยผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า และชุมชน
  • คำถามสำคัญ “HR ได้ตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายใน (พนักงาน) และภายนอก (ลูกค้า) หรือไม่”

3.     เป้าประสงค์ของ HR (HR Purpose)

  • หมายถึง วิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ความมุ่งมั่น ความปรารถนา ของ HR
  • คำถามสำคัญ “HR ได้แสดงออกให้ผู้อื่นได้เห็นหรือไม่ว่า HR คือใคร HR ทำอะไร และ HR มีอยู่ในองค์กรเพราะอะไร”

4.     การออกแบบโครางสร้าง HR (HR Design Or Structure)

  • หมายถึง ตัวแบบในการปฏิบัติงาน HR โครงสร้างองค์กรการกำกับดูแล
  • คำถามสำคัญ “HR ได้ออกแบบให้ตัวแบบในการปฏิบัติงานของ HR ให้มีความชัดเจนทั้งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ และความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ หรือไม่

5.     การพัฒนาขีดความสามรถของคนในองค์กร (Human Capability)

  • หมายถึง ผู้นำ คนมากความสามารถ (Talent) การออกแบบโครงสร้างองค์กร
  • คำถามสำคัญ “HR ได้พัฒนาขีดความสามารถของคนในองค์กร(ผู้นำ คนมากความสามารถ (Talent)การออกแบบโครงสร้างองค์กร)เอาไว้ในการดำเนินธุรกิจหรือไม่”

6.     การปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงาน HR (HR Digital Technology)

  • หมายถึง ผู้นำ คนมากความสามารถ (Talent) การออกแบบโครงสร้างองค์กร
  •  คำถามสำคัญ “HR ได้ลงทุนพัฒนา ปรับใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือทางดิจิทัลในการทำงานและการเชื่อมโยงคนในองค์กร หรือไม่”

7.     การวิเคราะห์ในงาน HR (HR Analytics)

  •  หมายถึง การกำหนดตัวชี้วัดการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ การแสดงผล การจัดทำรายงาน ความเป็นวิทยาศาสตร์
  • คำถามสำคัญ “HR เข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแม่นยำในการวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้นหรือไม่”

8.     แนวปฏิบัติในงาน HR (HR Practices)

  • หมายถึง แนวปฏิบัติในการบริหารคนการบริหารข้อมูล การจัดการงาน การออกแบบงาน การบวนการและขั้นตอนในงาน HR
  • คำถามสำคัญ “HR ได้มีการสร้างนวัตกรรมมีการสอดประสาน มีการบูรณาการความคิดสร้างสรรค์ในงาน HR หรือไม่”

9.     ความเป็นมืออาชีพในงาน HR (HR Professionals)

  • หมายถึงความสามารถเชิงสมรรถนะอันประกอบด้วย ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ
  • คำถามสำคัญ “HR ออกแบบและยกระดับความสามารถเชิงสมรรถนะเพื่อความเป็นมือวิชาชีพในงานHR ทีมีประสิทธิภาพหรือไม่”

10.  การสร้างความสัมพันธ์ของ HR (HR Relationships)

  • หมายถึง ความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร
  • คำถามสำคัญ “HR ได้สร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กรหรือไม่”
แผนภาพที่ 3: คุณลักษณะ 10 ประการของหน่วยงาน HR ที่สร้างคุณค่า

และเพื่อจะให้หน่วยงาน HR เป็นหน่วยงานที่ทรงประสิทธิภาพในการจะส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร (Stakeholder) HR จะต้อง“มีความกล้าที่จะประเมินตัวเอง” อย่างตรงไปตรงมาว่า ได้มีคุณลักษณะ 10 ประการดังกล่าวข้างต้นมากน้อยเพียงใดและหากประเมินแล้วพบว่า ยังขาดคุณลักษณะดังกล่าว HR ก็ต้อง“มีความกล้าที่จะปรับปรุงพัฒนาหน่วยงาน HR” ดัวยเช่นกัน

 

คำถามที่สอง เราจะมองเห็นได้อย่างไรว่า HR คนไหนมีความกล้า        

หากจะมองว่าคนไหนมี “ความกล้า”เราสามารถมองได้ด้วยชุดทักษะ (Skill Set) ใน 7 ด้าน ดังต่อไปนี้

1.     กล้ายอมรับความเสี่ยงด้วยการใช้ข้อมูล และสามารถประเมินความเสี่ยงได้ว่าเมื่อใดต้องทำอะไร หรือไม่ทำอะไร

2.     กล้าที่จะท้าทายอดีตและปัจจุบันเพื่อสร้างอนาคตที่แตกต่างกล้านำเสนอแนวคิดที่อาจต้องอาศัยการคิดและการดำเนินการที่ทันสมัย

3.     รู้ว่าเมื่อใดควรก้าวเดินอย่างกล้าหาญเพื่อเอาชนะปัญหาที่ยังคงค้างคาและรู้ว่าเมื่อใดควรอดทนและปล่อยให้เวลาผ่านไปก่อนที่จะลงมือทำ

4.     กล้าตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลที่มาจากการวิเคราะห์และสถิติและบางครั้งก็จะประกอบกับความเชื่อสัญชาตญาณหรือความรู้สึกลึกๆของตน

5.     กล้ายอมรับความผิดพลาดเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น แล้วแบ่งปันประสบการณ์ให้ผู้อื่น

6.     รับฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจเพื่อให้ตนเองได้เข้าใจอย่างถ่องแท้และจะพูดสื่อสารได้อย่างชัดเจนว่า เขาเข้าใจเรื่องเป็นอย่างไร เขาเชื่อในเรื่องอะไรและเขาคาดหวังอะไร

7.     กล้าที่จะแสดงความยกย่องชื่นชมพร้อมที่กล้าเสนอแนะเพื่อให้มีการปรับปรุง

 

คำถามที่สาม ทำอย่างไร HR จึงจะมีความกล้า

           จะผูกโยงเข้ากับ Competency 8 Competency ของ HR เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ ที่ Dave Ulrich เรียกว่าเป็น “สมรรถนะ 6 ด้านของคนทำงาน HR (Six Domain of HR Competence)” ดังแผนภาพที่ 4    อันประกอบไปด้วย

              หนึ่ง ช่วยเร่งผลลัพทธ์ทางธุรกิจ -โดยต้องรู้ธุรกิจ ร่วมกำหนดกลยุทธ์ ส่งมอบคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสีย

              สอง พัฒนาขีดความสามารถของคนในองค์กร – โดยสอดประสาน ส่งมอบและบูรณาการแนวปฏิบัติเพื่อยกระดับขีดความสามารถของคนในองค์กร

              สาม สร้างการเปลี่ยนแปลง – โดยทำการเปลี่ยนแปลง สร้างความยืดหยุ่นหรือการแปรรูปให้เกิดขึ้นกับองค์กรเพื่อสนองตอบต่อการเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงรวดเร็ว (Disruption)

              สี่ ใช้ AI และการวิเคราะห์ในการบริหารจัดการข้อมูล– โดยตระหนักรู้และใช้ AI ที่ทันสมัยล่าสุดปรับใช้การวิเคราะห์เพื่อเป็นแนวทางและจัดลำดับความสำคัญในการลงทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถของคนในองค์กร

              ห้า สร้างวัฒนธรรมองค์กร –โดยออกแบบและส่งมอบวัฒนธรรมองค์กรที่ใช่และเหมาะสมในการส่งมอบคุณค่าที่ผู้มีส่วนได้เสียยึดมั่น

              หก แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพส่วนบุคคล –โดยทำความกระจ่างเรื่องวัตถุประสงค์ สร้างความไว้วางใจ ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีในการยึดถือค่านิยมโน้มน้าวบุคคลอื่นได้ เป็นของจริง กล้าเสี่ยง

แผนภาพที่ 4: สมรรถนะ 6 ด้านของคนทำงาน HR (Six Domain of HR Competence)

โดย Dave Ulrich ได้ขยายความเพิ่มเติมว่า  HR สามารถแสดงให้เห็นถึงความกล้า ดังที่ระบุไว้ใน แผนภาพที่ 5 ดังนี้

ความกล้าในการช่วยเร่งผลลัพทธ์ทางธุรกิจ :

  • HR ต้องกล้าขอให้มีรายงานผลลัพทธ์ด้านขีดความสามารถของคนในองค์กรอยู่ในรายงานทางการเงินที่หมายรวมถึงตัวชี้วัดด้านทุนมนุษย์อันเป็นส่วนหนึ่งของผลตอบแทน
  • ติดตามผลกระทบของการลงทุนด้านการพัฒนาขีดความสามารถคนในองค์กรต่อลูกค้าและต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
  • กระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมในการจัดทำกลยุทธ์องค์กร

ความกล้าในการพัฒนาขีดความสามารถของคนในองค์กร:

  • HR ต้องตรวจสอบอย่างเข้างวดต่อแนวคิดและข้อเสนอใหม่ๆในการยกระดับขีดความสามารถของคนในองค์กรเพื่อจัดลำดับความสำคัญ
  • HR ต้องมองงาน HR เสมือนเป็น “สินค้า” ไม่ใช่ “กระบวนการ”
  • คิดค้นและลงทุนในการยกระดับขีดความสามารถของคน HR ให้อยู่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด

 

ความกล้าในการสร้างการเปลี่ยนแปลง:

  • HR ต้องกล้าตั้งคำถามกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจุบัน
  • HR ต้องส่งเสริมให้มีการช่วยกันระดมความคิดแบบตั้งต้นจากศูนย์เพื่อหาแนวทางทิ่เป็นการเฉพาะในการส่งมอบคุณค่าที่ผู้มีส่วนได้เสียยึดถือ
  • HR ต้องกล้าระบุและขจัดเชื้อไวรัสในองค์กรที่จะเป็นตัวขัดขวางการเปลี่ยนแปลง
  • HR ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงคนทำงานที่ไม่สามารถทำงานตามความคาดหวังได้
  • HR ต้องกล้าเผชิญกับแนวปฏิบัติเดิมๆของธุรกิจหากจำเป็นต้องทำ

ความกล้าในการใช้ใช้AI และการวิเคราะห์ในการบริหารจัดการข้อมูล

  • กล้าพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการประเมินและวิเคราะห์อดีตแต่ใช้ปัญญามนุษย์ในการสร้างอนาคต
  • ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นทั้งข้อมูลที่มีแบบแผนโครงสร้าง(ข้อมูลเชิงตัวเลข) และข้อมูลที่ไม่มีแบบแผนโครงสร้าง (ข้อมูลเชิงคุณภาพ)
  • แปลงข้อมูลที่ได้เป็นแนวทางในการตัดสินใจได้

ความกล้าในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร:

  • ดึงความสนใจจากผู้บริหารทั้งองค์กรให้มาใส่ใจกับวัฒนธรรมองค์กรด้วยการนำมาอยู่ในทุกกระบวนการของ HR (คัดเลือกสรรหา พัฒนา การให้ผลตอบแทนการวางแผนทดแทนตำแหน่ง)
  • เข้าไปแทรกแซงในการทำให้ผู้นำในองค์กรรับผิดชอบต่อผลลัพทธ์ต่อวัฒนธรรมองค์กร
  • แสดงความเห็นทักท้วงหากมีผู้นำคนใดในองค์กรทำตัวไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร

ความกล้าในการแสดงให้เห็นประสิทธิภาพส่วนบุคคล

  • สร้างความไว้วางใจด้วยการเป็นผู้วิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา(หมายเหตุผู้เขียน :Information Broker หมายถึงผู้ที่รวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลต่อผู้บริหาร หรือ ลูกค้า)
  • เป็นที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้สำหรับผู้บริหาร
  • ตระหนักและปล่อยผ่านอคติส่วนตัวที่จำเป็นต้องเปลี่ยน

 

แผนภาพที่ 5 : HR จะแสดงให้เห็นความกล้าในแต่ละสมรรถนะอย่างไร

บทสรุปส่งท้าย

หากจะสรุปคำตอบต่อคำถามสำคัญ 3 คำถามที่เกี่ยวกับที่ว่า “HR ค้องมีความกล้า”ด้วยจุดตั้งต้นที่ว่า ทำไม HR จึงต้องมีความกล้า ก็เพราะ HR มีบทบาทสำคัญในการผสานกลยุทธ์และหน่วยงานของ HR ให้มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่นำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเงินก็โดยจะต้อง “กล้า” ก้าวข้ามวิธีการทำงานที่เป็นความคุ้นชินแบบเดิม ๆ (Comfort Zone) ที่จะมองเฉพาะขอบเขตงาน HR หรือมองเพียงลูกค้าภายในคือ พนักงานและผู้บริหารแต่ให้มองไกลไปถึงผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดทั้งผู้ถือหุ้น ทั้งคนในชุมชนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าภายนอกที่จะซื้อสินค้าและบริการจากเรา แล้วเข้าหาเข้าไปมีส่วนร่วม เข้าไปรับรู้สิ่งที่เป็นค่านิยมที่ผู้มีส่วนได้เสียเพื่อจะได้นำมาออกแบบกลยุทธ์และออกแบบการพัฒนยาศักยภาพของคนให้ตอบสนองต่อคุณค่าดังกล่าวและเพื่อจะให้หน่วยงาน HR เป็นหน่วยงานที่ทรงประสิทธิภาพในการจะส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กร (Stakeholder) HR จะต้อง“มีความกล้าที่จะประเมินตัวเอง” อย่างตรงไปตรงมาว่า ได้มีคุณลักษณะ 10 ประการที่ Dave Ulrich ได้ทำการศึกษาวิจัยไว้โดยมีชุดทักษะ 7 ประการที่ช่วยเป็นกรอบในการมองว่า HR คนไหนที่มีความกล้าอย่างชัดเจน

และในตอนท้ายก็เป็นการสรุปด้วยคำถามที่ท้าทายว่า“ทำอย่างไร HR จึงจะมีความกล้า”โดยได้ผูกโยงกับสมรรถนะหลัก 6 ข้อของ HR พร้อมแนวทางที่คนทำงาน HR จะใช้ในการถามและประเมินตัวเองได้หากตอบตัวเองได้ว่า “เราพร้อมแล้วที่จะเป็น HR ที่มีความกล้า”

หมายเหตุท้ายบทความ: ข้อมูลในการเขียนบทความชิ้นนี้มาจากการสนับสนุนของ คุณเนาวรัตน์ บำรุงจิตต์ กูรูท่านหนึ่งในวงการ HR ที่ได้สื่อสารเป็นระยะกับ Prof. Dave Ulrich และจากผู้จัดการสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) คือคุณวชิราภรณ์ แสงพายัพ รวมทั้งได้มุมมองและข้อแนะนำเพิ่มเติมจาด ดร.ศิริลักษณ์ เมฑสังข์ ที่ปรึกษา PMAT โดยผู้เขียนขอขอขอบพระคุณทั้ง 3 ท่านไว้ ณที่นี้ด้วยครับ

Tag:
Article
Share this post:
ดิลก ถือกล้า
ผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ และมีงานเขียนต่อเนื่องใน Blockdit “HR ไร้พรมแดน” dilok.tue9176@gmail.com

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
Article
7 เหตุผลที่คุณต้องมาฟัง Dave Ulrich ในงาน HR DAY – PMAT 60th Anniversary International HR Conference
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ก่อนหน้าที่ทาง PMAT จะได้มีโอกาสเชิญบุคลากรผู้ทรงคุณค่าในวงการ HR อย่างศาสตราจารย์ Dave Ulrich มาปรากฏตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้น หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า HR Competency กันมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า Employee Champion (ผมแปลเองเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า ผู้ชนะใจพนักงาน) เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว โลกของเรายังไม่ก้าวหน้ารวดเร็วเท่ากับยุคปัจจุบัน การเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ใน internet ก็ทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในระดับที่ “ทันกับเวลา” จึงทำให้ HR หลาย ๆ ท่านเจอกำแพงอุปสรรคของการพัฒนาตนเอง เพราะเนื่องจากยังไม่เข้าใจบริบทในภาพกว้างของโลก / ธุรกิจ จึงยึดติดกับการพัฒนางานของตนเองในระดับปฏิบัติการมากกว่า อาทิเช่น ทักษะการใช้เครื่องมือนำเสนอ หรือทักษะการใช้การจัดเก็บความรู้ แต่เรายังไม่เข้าใจถึงแก่นว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นการทำงานของเรา (HR Role and Competency) ให้ขึ้นมามีบทบาททางธุรกิจมากขึ้น และคนที่สะกิดบอกทั้งโลกว่า “เฮ้! งาน HR มันคืองานในระดับธุรกิจนะ” ก็คือ อาจารย์ Dave นี่เอง
October 7, 2025
Article
เหตุผลที่คุณควรมาฟัง Erin Meyer อีกครั้งในงาน PMAT 2025
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ครับว่าองค์กรระดับโลกอย่าง Netflix สร้างวัฒนธรรมที่กระตุ้นนวัตกรรมได้อย่างไร? หรือเคยเผชิญความท้าทายในการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานต่างวัฒนธรรมที่การสื่อสารเกิดความเข้าใจผิด? นี่คือโอกาสที่พวกเรากำลังจะได้รับมุมมองและแนวทางแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านวัฒนธรรมองค์กร Erin Meyer ซึ่งกำลังจะกลับมาแบ่งปันความรู้กับผู้ฟังชาวไทยอีกครั้งในงาน PMAT 60th Anniversary HR International Conference 2025 ในระหว่างวันที่ 12–13 พฤศจิกายน 2025 นี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี และเปิดเวทีให้นักวิชาชีพ HR, ผู้เชี่ยวชาญ L&D, ผู้นำองค์กร และผู้สนใจด้านวัฒนธรรมการทำงาน ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสุดยอดนักคิดระดับโลก
October 2, 2025
Article
Special Interview คุณพารณอิศรเสนา ณ อยุธยา
คุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา เป็นอีกหนึ่งผู้มีบทบาทสำคัญในภาครัฐวิสาหกิจ ราชการ องค์กรธุรกิจ ภาคเอกชน การพัฒนาทรัพยากรมุนษย์และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีบทบาทในการพัฒนาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของไทยจนประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ จึงได้รับการประกาศเกียรติคุณ จากหลายๆ องค์กรและสถาบัน
September 30, 2025