>
ระวัง! มี Tech ล้นองค์กรจนพนักงานตามไม่ทัน แล้วเราควรจัดการอย่างไร?
June 20, 2023

ระวัง! มี Tech ล้นองค์กรจนพนักงานตามไม่ทัน แล้วเราควรจัดการอย่างไร?

อย่างไรก็ตาม ความน่าตื่นเต้นของการนำเทคโนโลยีด้าน HR เข้าไปใช้ในองค์กรย่อมมาพร้อมกับความท้าทายในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากองค์กรของท่านเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และมีระบบที่เคยวางเอาไว้แล้วมากมาย การจะรื้อถอน หรือเปลี่ยนแปลง ทั้งในแง่ของกระบวนการทำงาน และความรู้ความเข้าใจในระบบต่าง ๆ นั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการปรับแก้ และสื่อสาร

McKinsey & Company เคยทำการสำรวจเรื่องการพยายามทำเอาเทคโนโลยี หรือ digital transformation เข้ามาปรับใช้ในองค์กรเพื่อสร้างผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ซึ่งผลสำรวจกลับออกมาพบว่า มีเพียงแค่ 1 ใน 3 ขององค์กรที่ริเริ่มจัดทำการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเท่านั้นที่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ควรจะเป็น ซ้ำร้ายไปมากกว่านั้น มีเพียง 30% ขององค์กรที่ทำ digital transformation แล้วพบว่าองค์กรได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ (กล่าวคือ อีก 70% ที่เหลืออยู่พบว่าเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ที่ยังไม่เห็นผลสะท้อนกลับมาอย่างเป็นรูปธรรม)

หากการสร้าง change หรือการเปลี่ยนแปลงในองค์กรว่ายากแล้ว การสร้าง digital transformation นั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่าอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันที่องค์กรเริ่มทำแผน transformation roadmap และมีการนำเอา software, application หรือเครื่องมือประกอบการทำงานอื่น ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ อาทิ การพยายามผลักดันให้เกิด data-driven organization หรือการพยายามสร้าง cloud workspace ให้กับพนักงาน ซึ่งในความเป็นจริงนั้นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมาพร้อมกับกรอบการใช้งาน หรือ framework รวมไปถึง ecosystem หรือระบบที่รายล้อมเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้มากกว่าที่เห็น

ยกตัวอย่างเข่น การนำเอาระบบ cloud เข้ามาใช้งาน พนักงานจากเดินที่เคยเข้าใจว่าจะต้องจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล กลับจะต้องทำความเข้าใจเรื่อง SSOT หรือ Single Source Of Truth ที่จะต้องจัดเก็บข้อมูลไว้บน cloud drive ที่ถูกต้องแทน เพื่อให้เพื่อนร่วมงาน หรือผู้บังคับบัญชา สามารถเข้าไปแก้ไข จัดการ หรือส่งต่อได้โดยที่ไม่ต้องขอให้พนักงานคอยส่งไฟล์ไปมาผ่านระบบอีเมล์ หรือกรณีที่ HR เปลี่ยนกระบวนการประเมินผลปฏิบัติงาน (Performance Management System) ไปอยู่บน Web Application จากเดิมที่หัวหน้างานอาจจะใส่เกรดการปฏิบัติงานของพนักงานใต้บังคับบัญชาของตัวเองลงไปใน spreadsheet หรือ template ที่เคยกำหนดไว้ จะต้องมาเรียนรู้เรื่อง SSO (Single Sign On) หรือ การ login เข้าสู่ระบบ web application เพื่อเข้าสู่โปรแกรมประเมินผลปฏิบัติงาน แม้ว่าข้อมูลที่จัดเก็บเหล่านั้นจะทรงประสิทธิภาพมากแค่ไหนก็ตาม หรือ HR จะสามารถนำเอาข้อมูลต่าง ๆ ไปวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ และเป็นตัวช่วยในการสรรหา talent ในองค์กรได้เที่ยงตรงมากขึ้น

เชื่อหรือไม่ว่าจากผลสำรวจที่กล่าวมาข้างต้น แม้แต่บริษัทที่เป็นอุตสาหกรรม digital เอง พนักงานในองค์กรดังกล่าวก็ยังมีอุปสรรคในการนำเครื่องมือ digital ไปใช้งาน โดยตัวเลขของบริษัทที่คิดว่าทำสำเร็จแล้วนั้นออกมาต่ำกว่า 26% เสียอีก ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจว่า เพราะเหตุใด การที่บริษัทหรือองค์กรคิดที่จะสร้าง digital transformation ขึ้น กลับมีความท้าทายเกิดขึ้นมากมาย McKinsey & Company ซึ่งแยกอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นออกมาจากผลสำรวจ และพบว่า ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องคือเรื่องของ talent และวัฒนธรรมองค์กรโดยตรง (จากตารางด้านล่าง)

เพื่อให้ท่านผู้อ่านเห็นภาพได้ชัดขึ้น ผมจึงขอจัดกลุ่มอุปสรรคและความท้าทายออกเป็นหัวข้อจากข้อมูลดังกล่าวดังนี้

1. ยิ่งมี Technology ในองค์กรเยอะ ยิ่งต้องพัฒนาพนักงานให้ทัน

การพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงาน ไม่ควรหยุดอยู่แค่การทำ e-Learning หรืออัดวิดีโอแล้วสอน แต่ควรมี session แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงาน ยกตัวอย่างเข่น หากหน่วยงานบัญชีของท่านสามารถนำเอา application ที่เพิ่งบรรจุเข้ามาใหม่ในองค์กรมาสร้างความรวดเร็วในการทำงานได้ ก็ควรจัด knowledge sharing ให้กับบุคลากรทั้งหมดในวงกว้าง เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญ โดยผ่านการเรียนรู้จากงานจริง ๆ ที่ได้ลงมือทำ หรือหากหน่วยงานจัดซื้อสามารถช่วยบริษัทประหยัดเงินจากการทำ data-driven decision making ได้ ก็อาจจะมาชวน HR ร่วมกันทำ project cost saving ให้กับองค์กรได้อีก หากเราเน้นการเรียนรู้แบบ work based learning จะยิ่งสามารถทำให้พนักงานรู้สึกกลมกลืนไปกับการพัฒนานั่นเอง

2. ทำความเข้าใจ และสื่อสารกับพนักงานถึงรูปแบบการทำงานใหม่ ๆ

พนักงานหลายคนคงสับสนกับคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ค่อย ๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตการทำงานประจำมากขึ้น ทั้งในการประชุม และการสั่งงาน คำใหม่ ๆ อย่าง Agile, SCRUM, Sprint หรือ OKR ล้วนถูกทำให้ง่ายขึ้นด้วยการเอา software ต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้กับกระบวนการเหล่านั้น หากแต่พนักงานบางท่านอาจจะยังคงคุ้นเคยกับกระบวนการทำงานรูปแบบเดิม ดังนั้นก่อนที่จะฝืนให้พวกเขารับการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เครื่องมือเป็นสื่อนำ จึงควรเริ่มต้นด้วยการสื่อสาร ปรับรูปแบบการทำงาน ให้ค่อย ๆ เกิดความคุ้นเคย ทั้งการเริ่มต้นการทำงาน ระหว่างการทำงาน การเก็บเอกสาร การนำเอกสารไปใช้ แล้วจึงเชื่อมโยงเข้ามาที่ตัวเครื่องมืออย่าง application หรือ software ต่าง ๆ

3. ค่อยๆ upgrade งานของพนักงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หลายครั้งที่พอองค์กรริเริ่มการ transformation มักจะมี due date หรือเส้นตายที่ค่อนข้างชัดเจน ว่าจะยกเลิกระบบเก่าเมื่อไหร่ หากแต่ความสามารถในการปรับตัวของพนักงานทุกคนย่อมมีไม่เท่ากัน หลังจากจัดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันแล้ว หัวหน้างานจึงมีหน้าที่ ที่จะต้องคอย upgrade การทำงานของพนักงานกลุ่มดังกล่าวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาทิเช่น การผสมผสานการทำงานระบบเก่าและระบบใหม่ไปพร้อมกัน โดยไม่ได้ทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งในทันที

4. จัดคนให้เหมาะสม โดยมีตัวกลางคอยเชื่อมโยงโลกใบเก่า และใหม่ไปพร้อม ๆ กัน

คนกลาง หรือ ผู้อำนวยการ (Facilitators) จะต้องเป็นบุคคลที่เล่นบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง โดยจะต้องเป็นบุคลากรที่มีความรู้ทั้งโลกใบเก่าและใบใหม่ที่กำลังมาถึง ทั้งจะต้องประคับประคองไม่ให้เกิดความแตกหักระหว่างกระบวนการทำงาน และคอยชี้แนะแจกแจงถึงวิธีการใหม่ ๆ ที่จะช่วยลดขั้นตอน หรือเพิ่มประสิทธิภาพต่าง ๆ ให้เห็นอย่างชัดเจน คนกลางในที่นี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็น IT Specialist หากแต่จะเป็นพนักงานท่านไหนก็ได้ที่มีศักยภาพในด้านการสอน และอำนวยการการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น รวมถึงเข้าใจ business process ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมทั้งสามารถให้คำปรึกษาได้ในกรณีที่เกิดปัญหาในระหว่างสร้างการเปลี่ยนแปลง

โดยสรุป หากท่านเป็น HR ที่กำลังอยู่ในกระแสของการเปลี่ยนแปลงในองค์กร และท่านรับรู้ได้ว่ากำลังจะเกิดมหกรรมการนำ tools ต่าง ๆ เข้ามาใช้ ควรที่จะต้องรีบยกมือและแจกแจงความท้าทายต่าง ๆ พร้อมแผนรับมืออย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดการลงทุนก้อนมหาศาลแต่สร้างอุปสรรคต่าง ๆ ในการทำงานนั่นเอง

อ้างอิง

The keys to a successful digital transformation | McKinsey

Managing the fallout from technology transformations | McKinsey

Tag:
No items found.
Share this post:
ภคภัค สังขะสุนทร

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024