>
การแปลงโฉมของ HR (HR Transformation): แล้วจะแปลงโฉมไปเป็นอะไร (บทความบทที่ 4/5)
September 18, 2021

การแปลงโฉมของ HR (HR Transformation): แล้วจะแปลงโฉมไปเป็นอะไร (บทความบทที่ 4/5)

เป็นเวลามากกว่า 20 ปีที่หน่วยงาน HR ได้พยายามหาทางที่จะแปลงโฉมตัวเอง ในด้านหนึ่ง เราอาจจะรู้สึกว่าสิ่งนี้ทำให้เรารำคาญใจเพราะเหมือนกับว่าเราไม่ได้มีศักยภาพที่จะทำการแปลงโฉมตัวเอง แต่ก็มีคำอธิบายได้อย่างมีเหตุผลก็ข้อหนึ่งก็คือ หน่วยงาน HR ได้มีการแปลงโฉมมาอย่างต่อเนื่องเพราะการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้ก่อให้เกิดความต้องการที่จะต้องมีการสร้างบุคลิกลักษณะเฉพาะใหม่ของหน่วยงานขึ้นมา คำถามคือ แล้วบุคคลิกลักษณะใหม่แบบไหนที่จะสร้างผลกระทบในทางบวกให้กับธุรกิจ ในการศึกษา HR Competency รอบที่ 8 นี้

เราได้กำหนดและทำการประเมินบุคลิกลักษณะ 7 ประการที่เราเชื่อว่าจะขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจและนั่นหมายรวมถึงเป้าหมายในการแปลงโฉมของหน่วยงาน HR ในปัจจุบัน โดยบุคลิกลักษณะ 7 ประการจะประกอบด้วย

> แนวปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงาน (Employee Practice)

องค์ประกอบตัวนี้ของหน่วยงาน HR จะเน้นที่ขอบเขตการดำเนินการที่องค์กรได้ใช้ชุดของแนวปฏิบัติที่ถูกต้องในการบริหารพนักงาน โดยมีความสอดคล้องกับงานวิจัยล่าสุดที่เราถามเกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่นำไปสู่ผลการปฏิบัติงานและการยึดในคำมั่นที่สูง เป็นต้นว่า การจ่ายเน้นที่ผลการปฏิบัติงาน (Performance-Based Pay) การฝึกอบรมที่เข้มข้น การคัดเลือกสรรหาพนักงานที่ดีที่สุด การให้ Feedback การจ่ายที่เหนือกว่าคู่แข่ง การให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แต่ขณะเดียวกัน เราก็ได้ถามถึงแนวปฏิบัติที่จะทำให้พนักงานเกิดเสียกำลังใจ ทำงานแบบขอไปที และมีผลการทำงานที่ไม่น่าพอใจ เป็นต้นว่า การมีกฎกติกาที่เข้มงวด การควบคุมดูแล และการดำเนินการทางวินัย  

> ความสอดคล้องกันของแนวปฏิบัติ (Practice Alignment)

เราทราบดีว่า หน่วยงาน HR ได้พัฒนาและดำเนินการด้านแนวปฏิบัติด้าน HR เป็นจำนวนมาก เป็นต้นว่า การคัดเลือกสรรหาพนักงาน การบริหารผลตอบแทนและสวัสดิการ การสร้างความผูกพันในองค์กร การผึกอบรมและพัฒนา การบริหารความหลากหลาย ความเป็นธรรมและการยอมรับความต่าง และการบริหารผลการปฏิบัติงาน บุคคลิกลักษณะที่ว่านี้ บ่งบอกถึงขอบเขตที่ว่าแรวปฏิบัติเหล่านี้มุ่งสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเชิงกลยุทธ์ในด้านใด

> ข้อมูลและการวิเคราะห์ (Information and Analytics)

เราทราบกันดีว่า มีข้อมูลปริมาณมากได้เพิ่มขึ้นในลักษณะที่เป็นแบบกราฟชัน (Exponential Rate) และองค์กรจะต้องหาทางที่จะวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น บุคลิกลักษณะตัวนี้จะชี้ให้เห็นขอบเขตที่หน่วยงาน HR ได้สร้างฐานข้อมูล ปรับใช้การวิเคราะห์ การกำหนดรูปแบบของข้อมูล และการวัดผลกระทบของ HR

> การสนับสนุนการสร้างศักยภาพ (Capability support)

ดังที่ได้กล่าวไว้ในบทความที่แล้ว เรามองศักยภาพขององค์กรเป็นการผสมผสานกันของคน ระบบ และกระบวนการที่ส่งผลให้องค์กรสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดีกว่าคู่แข่ง บุคคลิกลักษณะข้อนี้ของหน่วยงาน HR จะโยงไปถึงหน่วยงาน HR ทำได้ดีมากน้อยแค่ไหนในการช่วยสร้างศักยภาพองค์กรให้เกิดขึ้นตามความจำเป็นขององค์กร

> การสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Value)

เป็นที่ทราบกันดีว่า องค์กรในยุคปัจจุบันจะต้องตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลายทั้งภายในและภายนอก มิติด้านนี้จะกำหนดขอบเขตของหน่วยงานว่าจะออกแบบและส่งมอบแนวปฏิบัติที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า ผู้ลงทุน หัวหน้างาน และพนักงานได้มากน้อยเพียงใด    

> ความน่าเชื่อถือของหน่วยงาน HR (HR Department Credibility

ในการทำการศึกษา HR Competency ที่ผ่านมาในอดีต ความน่าเชื่อถือของหน่วยงาน HR ได้ขึ้นมาเป็นตัวขับเคลื่อนที่มีนัยยะสำคัญต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ มิติด้านนี้จะกำหนดขนาดของความเชื่อถือที่ได้รับจากฝ่ายบริหาร การได้รับความไว้วางใจจากพนักงาน การเป็นปากเป็นเสียงแทนพนักงาน และการยึดถือต่อความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาในสายงาน

> การพึ่งพา HR (Reliance on HR)

บุคลิกลักษณะสุดท้ายประกอบด้วยขอบเขตที่ว่าองค์กรจะสามารถพึ่งพา HR ในการเล่นบทบาทที่มีนัยยะสำคัญในกิจกรรมด้านกลยุทธ์ได้มากแค่ไหน เช่น การจัดทำกลยุทธ์ทางธุรกิจ การนำกลยุทธ์ไปปรับใช้ การปรับโครงสร้างองค์กร และการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร

โดยเนื้อในของบุคลิกลักษณะเหล่านี้จะประกอบด้วย กระบวนการที่ส่งมอบโดยหน่วยงาน HR (แนวปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงาน ความสอดคล้องกันของแนวปฏิบัติ ข้อมูลละการวิเคราะห์) มุมมอง ที่ใช้ในการส่งมอบเรื่องดังกล่าว (การสนับสนุนการสร้างศักยภาพ การสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสีย และ จุดที่ HR สามารถบรรลุได้ในการชนะใจคนคนอื่นๆในองค์กร (ความน่าเชื่อถือ การพึ่งพาได้)

เราได้ตรวจสอบเชิงวิเคราะห์เพื่อดูว่าบุคลิคลักษณะเหล่านี้สัมพันธ์อย่างไรกับผลลัพธ์ทางธุรกิจเมหากมองในแง่ของผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในองค์กรเทียบกับคู่แข่งในด้านการเงิน (กำไร รายได้) กลยุทธ์ (ผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณภาพของผลิตภัณฑ์) ลูกค้า (ความพึงพอใจ ส่วนแบ่งทางการตลาด) พนักงาน (ประสิทธิภาพ การดึงดูดคน การรักษาคนเอาไว้) และสังคม (สภาพแวดล้อม ชุมชน) และในแผนภาพที่ 1 ตัวเลขในบรรทัดสุดท้ายจะให้แนวทางการคำนวณแบบคร่าวๆว่า ความหลากหลายที่เกิดทั่วทุกสายงานจะอธิบายได้ด้วยตัวแปรได้มากน้อยเพียงใด ส่วนตัวเลขอื่นๆจะชี้ให้เห็นความสำคัญที่สัมพันธ์กัน (จาก 100%)  ของแต่ละบุคลิกลักษณะของหน่วยงาน HR

จากแผนภาพที่ 1 เราจะเห็นภาพผลการศึกษาที่ปรากฎในออกมาใน 2 ประเด็น คือ ข้อแรก   บุคลิกลักษณะเฉพาะทุกตัวจะสัมพันธ์เชิงบวกกับผลลัพธ์ทางธุรกิจ ข้อที่สอง บุคลิกลักษณะของ HR ที่ส่งผลสูงสุดจะเรียงตามลำดับดังนี้ คือ แนวปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงาน การสนับสนุนการสร้างศักยภาพ (Capability support) และการสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder Value)

อีกวิธีการหนึ่งในการทำความเข้าใจจากผลการศึกษานี้ก็คือ การวางความสัมพันธ์ของประสิทธิภาพและผลกระทบของบุคลิกลักษณะเหล่านี้ลงในตาราง เราจะเห็นภาพจากแผนภาพที่ 2 คือ ข้อมูล HR และการวิเคราะห์จะตกอยู่ในช่องตาราง “ผลกระทบต่ำ/ประสิทธิภาพต่ำ” บ่งบอกความจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดการมิติด้านนี้ให้ดียิ่งขึ้น ที่น่าสนใจก็คือ การพึ่งพา HR ความน่าเชื่อถือของ HR และความสอดคล้องกันของแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงานตกอยู่ในช่อง “ผลกระทบต่ำ/ประสิทธิภาพสูง” ซึ่งชี้ว่า หน่วยงาน HR ทำได้ดีในเรื่องเหล่านี้ แต่ไม่ส่งผลกระทบที่สูงมากนักต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ ซึ่งก็จะถูกทดแทนโดยบุคลิคลักษณะที่เป็นการ “มองมาจากภายนอก (Outside-In)” คือ การสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียและการสนับสนุนการสร้างศักยภาพจะตกอยู่ในช่องตาราง”ผลกระทบสูง/ประสิทธิภาพสูง” และสุดท้ายเราจะเห็นได้ว่า เรื่องลำดับต้นๆและมีความสำคัญที่สุดสำหรับหน่วยงาน HR ที่ควรดำเนินการคือ การออกแบบและปรับใช้แนวปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงานที่ถูกต้องเพื่อขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน เพราะบุคลิกลักษณะข้อนี้ตกอยู่ในช่อง“ผลกระทบสูง/ประสิทธิภาพต่ำ” ที่เราควรต้องยกระดับประสิทธิภาพให้สูงขึ้น

คำถามสุดท้ายคือ อะไรคือความเชื่อมโยงระหว่าง Competency ของบุคคลกับบุคลิกลักษณะของหน่วยงาน HR ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้มากที่สุด ภาพในแผนภาพที่ 3 แสดงให้เห็นว่า Competency 5 ข้อมีความเกี่ยวข้องกับแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงาน การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ และการสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสีย

ตามภาพที่เราได้เห็นนี้ ความสามารถที่จะเร่งเครื่องธุรกิจผ่านการยกระดับศักยภาพของคนจะครอบคลุมผลกระทบต่อบุคลิกลักษณะหลักของหน่วยงาน HR สิ่งนี้จะทำยิ่งทำให้การวิวัฒนาการของหน่วยงาน HR ปรากฎชัดขึ้นจากการที่เน้นการทำงานแบบ Silo และมุ่งเน้นการให้ความสำคัญภายในไปสู่การมุ่งเน้นความสัมพันธ์ภายนอก อย่างเช่นว่า คนในหน่วยงาน HR มีความเข้าใจสภาพแวดล้อมของการแข่งขัน รู้ว่าองค์กรสร้างตัวเองให้แตกต่างอย่างไร รู้ถึงความศักยภาพที่จำเป็นที่จะทำให้เกิดสิ่งดังกล่าว และสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากกระบวนการและแนวปฏิบัติของ HR  ในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมไปถึง ความสามารถที่จะทำเรื่องที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่ายๆที่จะทำให้ HR มืออาชีพสามารถที่จะสร้างสมดุลย์ของความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียที่มีความแตกต่างกัน

ดังนั้น แล้วอะไรคือ การได้เรียนรู้ที่สำคัญในการนำพาให้หน่วยงาน HR สร้างผลกระทบให้เกิดต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ

1. สอดคล้องกับผลการศึกษาเรื่อง HR Competency ก่อนหน้าที่ว่า องค์กรสำคัญกว่าปัจเจกบุคคลในการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ หนังสือชื่อ “ชัยชนะทั่วทั้งองค์กร (Victory Through Organization) ได้ทำให้เห็นภาพนี้ชัดขึ้นจากการค้นพบที่แสดงให้เห็นในรูปแบบของข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

2. การแปลงโฉม HR ในขณะที่มีความคาดหวังว่า HR มืออาชีพที่เป็นตัวบุคคลจะต้องยกระดับตัวเองให้ดีขึ้น ก็มีความจำเป็นที่หน่วยงาน HR เองจำเป็นต้องแปลงโฉมตัวเองด้วยการมีกระบวนการที่ถูกต้อง มีทัศนคติที่ดี และอยู่ในตำแหน่งในองค์กรที่เหมาะสม

3. เราสามารถแปลงโฉมหน่วยงาน HR โดยการมุ่งเน้นเรื่องที่ส่งผลกระทบสูงในสามเรื่องคือ    

เรื่องแรก เราต้องมั่นใจว่าแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพนักงานของเราได้ช่วยทำสองด้านคือ ทั้งขับเคลื่อนให้พนักงานกลุ่มที่มีความสำคัญสร้างผลงานและมีความมุ่งมั่น และทั้งจะต้องทำให้พนักงานกลุ่มที่มีผลการปฏิบัติงานต่ำจะต้องพัฒนาตนเองให้ก้าวพ้นผลงานที่ไม่น่าพึงพอใจ เรื่องที่สอง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ HR จะต้องสามารถระบุความสามารถทางธุรกิจที่มีนัยยะสำคัญและพนักงานที่เป็น Talent ที่มีความสามารถเหล่านั้นที่จะทำให้องค์กรสามารถสร้างความแตกต่างจากตลาด เรื่องสุดท้าย หน่วยงาน HR จะต้องสามารถปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียที่มีความหลากหลาย (ผู้ลงทุน ลูกค้า พนักงาน ชุมชน เป็นต้น) ได้อย่างครบถ้วน

ผลัพธ์การศึกษาของเราแสดงให้เห็นคุณค่าที่มีความสำคัญอย่างมากที่หน่วยงาน HR ที่มีประสิทธิภาพสามารถนำมาสู่ธุรกิจ แต่ผลการศึกษานี้ก็แสดงให้เห็นเช่นกันว่า ไม่ใช่ทุกหน่วยงาน HR จะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คำถามสำหรับเราก็คือ “เรากำลังอยู่ในกระบวนการของการแปลงโฉมตัวเองหรือไม่” ซึ่งทีมศึกษามั่นใจว่า พวกเรากำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการแปลงตัวเอง

แต่คำถามที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ “การแปลงโฉมหน่วยงาน HR ของเรา ได้เน้นในเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนธุรกิจหรอไม่”  

ผู้เขียน: Patrick M. Wright, Mike Ulrich, and Erin Burns

ผู้แปล: ดิลก ถือกล้า

Tag:
No items found.
Share this post:
ดิลก ถือกล้า

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024