บทบาทของ AI ในโลกการทำงานและ HR : งานไหนจะอยู่หรือไป

งานแอดมิน คีย์ข้อมูลหรือเลขานุการส่วนใหญ่กำลังถูกจับตามองว่าจะมีแนวโน้มลดลงอย่างรวดเร็วจากการมาของ AI โดยประมาณ 40% ของชั่วโมงทำงานทั้งหมดอาจได้รับผลกระทบจาก Large LanguageModels  (LLM) ของ AI เช่น ChatGPT-4 จากรายงานของ Accenture โดยให้มุมมองที่ชี้ให้เห็นว่าการมาเยือนของเทคโนโลยีนี้กำลังจะเปลี่ยนโลกเนื่องจากมันได้ทลายข้อจำกัดด้วยการถอดรหัสความซับซ้อนด้านภาษาของมนุษย์ได้สำเร็จ

ถึงแม้ว่าการ layoff พนักงานในตำแหน่งงานที่ถูกลดบทบาทลงหรือแทนที่ด้วยเทคโนโลยีจะทำให้องค์กรคล่องตัวมากขึ้นศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย British Columbia's Sauder school of business ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Minnesota วิเคราะห์ข้อมูลของพนักงานกว่าหนึ่งล้านคนในร้านค้า 1,620 แห่งในธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐฯ ในช่วง 22 เดือนที่ผ่านมาพบว่าการประกาศเลิกจ้างไม่เพียงแค่ทำให้พนักงานที่องค์กรไม่ต้องการให้อยู่ต่อเดินออกไปเท่านั้นแต่ยังมีผลกระทบอย่างมากและมีผลทันทีที่ทำให้พนักงานที่เหลือตัดสินใจจะลาออกตามไปด้วยจากความรู้สึกที่ไม่มั่นคงในหน้าที่การงานและบริษัท

‍

‍

ดังนั้นองค์กรหลายแห่งทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการ Reskillพนักงานในการหันมาใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อที่จะเป็นหมากชิ้นสำคัญที่ทำให้บริษัทต่างๆสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ได้สำเร็จและช่วยพยุงพนักงานให้เติบโตก้าวหน้าต่อได้โดยงานที่มีโอกาสใช้ประโยชน์จาก AI เหล่านี้ได้มากกว่างานอื่น ๆ ได้แก่งานสายธนาคาร ประกันภัย ซอร์ฟแวร์ ตลาดทุน และงานด้านพลังงาน

ถึงแม้ว่าในหลายองค์กรยังไม่มีกลยุทธ์ในการฝึกอบรมพนักงานในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพราะยังมองไม่เห็นถึงความจำเป็น แต่ OpenAI อย่าง ChatGPT อาจอยู่ในองค์กรและชีวิตการทำงานของพนักงานแล้วโดยเชื่อมเข้ากับซอร์ฟแวร์บางตัวที่ใช้อยู่ เช่น Salesforce จากการสำรวจของ TalentLMS กับพนักงาน 1,000 คนในสหรัฐพบว่า พนักงานเพียง 18%ได้รับการฝึกอบรมการใช้ ChatGPT โดยใช้เพื่อเขียนคอนเทนต์ 36% วิเคราะห์ข้อมูล 33% ให้การบริการลูกค้า 30% การระดมสมองและสร้างไอเดีย 27% และการทำความเข้าใจบทสนทนาที่ยาก ๆ 22%

ในงาน HR เองก็เริ่มมีการนำ AI ที่มีลักษณะคล้ายกับ ChatGPT เข้ามา Talent GPT เป็นหนึ่งในตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ช่วยRecruiter เขียน Job Description จับคู่ผู้สมัครเข้ากับตำแหน่งงานว่างโดยจำแนกคนออกตามฐานข้อมูล รวบรวมและคำนวณสัดส่วนของพนักงานแต่ละประเภทรายได้ต่อปี ฯลฯ

‍

‍

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการ จะสามารถลด bias ในกระบวนการงานบุคคลได้โดยใช้อัลกอริทึมการประมวลผลและลบภาษาที่มีอคติออกจากงานและเอกสารด้านบุคคลทำให้สามารถช่วยองค์กรสร้างสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของพนักงานได้มากขึ้น

‍

‍

ฝั่งเทรนนิ่ง courseai เป็นตัวอย่างเทคโลยีที่ใช้สร้างหลักสูตรเรียนออนไลน์ได้อย่างง่ายโดยใช้AI เพียงแค่พิมพ์ชื่อธีมที่ต้องการ แถมยังมาพร้อมกับข้อสอบวัดการเรียนรู้อีกด้วย

‍

เรื่องระบบประเมินผลงาน ก็มีโปรแกรมต้นแบบอย่าง HiManager ที่นำเอาความสามารถของ ChatGPT เข้ามาช่วยเขียนเป้าหมาย สรุปการพูดคุยแบบ one-on-one ระหว่างหัวหน้างานและลูกน้องโดยใช้ระบบจดจำเสียง เขียนฟีดแบคและข้อเสนอแนะร่างผลการประเมินพนักงานหรือแม้กระทั่งวิเคราะห์ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรอีกด้วย

HR Tech กำลังเปลี่ยนบทบาทจากการบริกาพนักงานเป็นการยกระดับประสบการณ์ของพนักงานไปอีกขั้นโดยสร้างรูปแบบความสัมพันธ์ด้วยการโต้ตอบผ่านแชทแทนการค้นหาและป้อนข้อมูลในระบบโดยใช้ ChatGPT เป็นตัวเชื่อมต่อและพูดคุยกับพนักงานแชทบอทเหล่านี้สามารถช่วยให้พนักงานหาคำตอบของสิ่งที่ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานและแม้กระทั่งเสนอการพัฒนารายบุคคลและให้คำแนะนำในการเติบโตก้าวหน้าในงานซึ่งจะสามารถเพิ่มการรักษาพนักงานและยกระดับความพึงพอใจที่มีต่องานและองค์กรได้

และถึงแม้ว่าระบบเหล่านี้จะยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาแต่มันจะดีขึ้นเรื่อย ๆด้วยความเร็วสูงที่อาจทำให้งานของพวกเราที่เคยใช้เวลาและความพยายามมากมายกลับกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วที่พิมพ์คำสั่งดังนั้น HR ควรจะเป็นด่านแรกของผู้ที่เรียนรู้และฝึกใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จนเชี่ยวชาญเพื่อส่งต่อและพัฒนาพนักงานทั้งองค์กรต่อไปบนความเข้าใจจากความรู้และประสบการณ์ที่แท้จริงอย่างไม่หยุดยั้ง

‍

‍

อ้างอิง

These are the jobs mostlikely to be lost – and created – because of AI, World Economic Forum  

Employee turnovercauses ripple effect, leads to more departures, UBC research

Employees want moretraining on AI tools before using them for work, TechRepublic

The A.I. revolution ishere. Here’s how leaders can prepare employees for the new workforce, Fortune