อริยพงษ์ พันธ์ศรีวงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท FlexBen ได้กล่าวไว้บนเวที Thailand HR Tech 2025 ว่า AI ไม่ใช่ศัตรูของมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะพึ่งพาโดยปราศจากการออกแบบอย่างมีสติ เพราะแม้ AI จะช่วยงานได้ดีเพียงใด แต่หากเราปล่อยให้มันคิดแทนในทุกด้าน มนุษย์จะค่อย ๆ สูญเสียทักษะดั้งเดิมที่สำคัญโดยไม่รู้ตัว
AI: ไม่ใช่ผู้ร้าย แต่คือพระเอกที่เราต้องรู้จักใช้อย่างมีสติ
คุณอริยพงษ์ตั้งคำถามชวนคิดว่า “หากวันหนึ่งเราไม่มี AI หรือเครื่องมืออัจฉริยะเหล่านี้ เราจะยังสามารถทำงานเหล่านั้นได้ด้วยตัวเองหรือไม่?”
คำถามนี้สะท้อนถึงแก่นสำคัญของยุคเทคโนโลยีว่า แม้เครื่องมือจะก้าวหน้าเพียงใด แต่ ทักษะพื้นฐานของมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ เพราะนั่นคือรากฐานของความเข้าใจและความสามารถที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม AI ไม่ใช่ “ผู้ร้าย” ที่จะมาแย่งงานคน หากแต่คือ “พระเอก” ที่พร้อมเสริมพลังให้เราทำงานได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปลดปล่อยศักยภาพของมนุษย์ให้ไปทำงานที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม
ประเด็นสำคัญจึงไม่ใช่ว่าเราควรใช้ AI หรือไม่ แต่คือ “เราใช้ AI อย่างไร” ต่างหาก เพราะการใช้อย่างรู้เท่าทัน เข้าใจบทบาท และเลือกใช้ให้เหมาะกับบริบท จะทำให้ AI กลายเป็นพันธมิตรที่ทรงคุณค่าที่สุดในการทำงานยุคใหม่
AI กับบทบาทที่แท้จริง: เสริมศักยภาพ ไม่แทนที่มนุษย์
หากเราออกแบบให้ AI คิดแทนทุกอย่าง สิ่งที่เราสูญเสียไม่ใช่แค่โอกาสในการใช้ทักษะ แต่คือโอกาสในการเติบโตของมนุษย์เอง เพราะทักษะที่ไม่ถูกใช้ ย่อมเสื่อมถอยตามกาลเวลา
แต่หากเราเลือกใช้ AI อย่างมีเป้าหมาย ให้เป็นผู้ช่วย เป็นโค้ช หรือเป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยกระตุ้นการคิด วิเคราะห์ และการเรียนรู้—ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพ แต่คือการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และการขยายศักยภาพของมนุษย์อย่างแท้จริง
การปล่อยให้ AI ทำงานบางอย่างแทนมนุษย์จึงไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่เวลาที่ได้คืนมานั้น ถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาทักษะที่มีคุณค่ามากกว่า
เช่นเดียวกับในอดีตที่การล่าสัตว์เคยเป็นทักษะจำเป็น แต่เมื่อโลกเปลี่ยน เราไม่จำเป็นต้องเก่งในสิ่งเดิมอีกต่อไป มนุษย์ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง แต่ต้องรู้ว่า "ทักษะใดจำเป็นในยุคนี้" และ "ควรพัฒนาอะไรต่อไป"
สำหรับองค์กร โดยเฉพาะฝ่าย HR บทบาทสำคัญคือการชี้ให้เห็นว่า ทักษะใดคือหัวใจของความสามารถในยุคนี้ และทักษะใดที่สามารถให้ AI เข้ามาช่วย เพื่อให้คนได้ทุ่มเทกับงานที่มีมูลค่าสูงกว่า
ไม่ว่าจะเป็นการดูแล การพัฒนา หรือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงาน สิ่งเหล่านี้คือพื้นที่ที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ แต่สามารถช่วยสนับสนุนให้มนุษย์ทำได้ดีและลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
AI กับบทบาทของ HR: เมื่อเวลา คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในองค์กร
ในบริบทของงาน HR การใช้ AI ไม่ควรถูกจำกัดแค่เพียงการทำงานซ้ำ ๆ อย่างการคัดกรองใบสมัคร จัดการสวัสดิการ หรือตรวจสอบเอกสาร แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ HR ต้องมองให้ออกว่า
“ทักษะใดควรให้คนทำ และทักษะใดควรให้ AI ช่วย”
เพราะเป้าหมายไม่ใช่การใช้ AI เพื่อทุ่นแรงอย่างเดียว แต่คือการใช้ เวลา ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในองค์กร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ HR มีพื้นที่ในการทำสิ่งที่สร้างคุณค่าในระยะยาว เช่น การพัฒนาคน การสร้างวัฒนธรรมองค์กร หรือการออกแบบอนาคตของงาน
ความท้าทายของ HR ในยุคนี้จึงอยู่ที่การ “สร้างสมดุล” ระหว่างการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการรักษา รวมถึงยกระดับทักษะของมนุษย์ให้ก้าวทันอนาคต
คุณอริยพงษ์ได้สรุปไว้ได้อย่างน่าคิดว่า AI ไม่ใช่ปีศาจ และก็ไม่ใช่พระเจ้า มันเป็นแค่เครื่องมือ
ถ้าเรา “ขี้เกียจ” มันจะทำให้เราขี้เกียจขึ้น แต่ถ้าเรา “คิดเก่ง” มันจะทำให้เราคิดเก่งขึ้นกว่าเดิม
และคำถามสำคัญที่ทุกองค์กรควรถามตัวเองคือ: “องค์กรของเรากำลังใช้ AI แบบที่ทำให้พนักงานถดถอย หรือแบบที่ทำให้พนักงานพัฒนา?”
คำตอบของคำถามนี้ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการเปลี่ยนผ่าน ว่าจะพาองค์กรไปสู่ความล้ำหน้า หรือหลงทางกลางความเปลี่ยนแปลง