>
The Dark Side of Charisma: เบื้องหลังเสน่ห์ผู้นำที่องค์กรไม่ควรมองข้าม
Article
July 4, 2025

The Dark Side of Charisma: เบื้องหลังเสน่ห์ผู้นำที่องค์กรไม่ควรมองข้าม

ในโลกของการเป็นผู้นำ “คาริสม่า” หรือเสน่ห์ดึงดูดมักถูกยกให้เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายคนมองว่า “ต้องมี” ไม่ว่าจะเป็นความมั่นใจ ความเด็ดขาด หรือบุคลิกที่น่าประทับใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทีมและผู้ตาม แต่หากมองให้ลึกลงไปกว่านั้น เสน่ห์เหล่านี้อาจไม่ใช่คำตอบของภาวะผู้นำที่แท้จริง และยังอาจซ่อน “ด้านมืด” ที่เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของทั้งผู้นำและองค์กร

ในงาน Thailand HR Tech 2025 Praveenuj Visvaporabutr Managing Partner จาก Talent Solution Consultant Co., Ltd. และ Absolute Talent Solutions Co., Ltd. ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า “คาริสม่าดึงดูด แต่ไม่ได้ทำนายความสำเร็จ ดังนั้นเราต้องใช้วิทยาศาสตร์ช่วย อย่าใช้สัญชาตญาณในการเลือกแคนดิเดท” เพราะในโลกความเป็นจริง ภาพลักษณ์ที่สร้างความประทับใจแรกพบ อาจไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมจริงของผู้นำเมื่อเผชิญกับแรงกดดันในสถานการณ์จริง

เสน่ห์ของผู้นำอาจสร้างแรงบันดาลใจ…แต่ก็ซ่อนความเสี่ยง

เมื่อกล่าวถึงผู้นำระดับโลกหลายท่านแล้ว หลายคนจะนึกถึงคำว่าอะไรตามมา เด็ดขาด ขึงขัง สุภาพ อ่อนน้อม มีอารมณ์ขัน คำเหล่านี้ล้วนแสดงถึงคุณลักษณะที่ถูกวัดผ่านสายตา ในบางครั้งการแสดงออกของผู้นำก็เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นจุดแข็งที่น่าดึงดูด จุดประกายบางอย่างให้เราอยากทำตาม และบางครั้งภายใต้ตวามกดดันและสภาวะที่ตึงเครียด จุดแข็งก็อาจแปรเปลี่ยนเป็นความท็อกซิกได้เหมือนกัน เพราะในตัวคนเราต่างก็มีทั้ง Filtered personality เป็นด้านดีหรือภาพลักษณ์ที่เลือกแสดงออกให้คนอื่นได้เห็นทุกวัน ๆ และยังมาพร้อม Dark side หรือด้านมืดอันเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่เผลอแสดงออกมาอย่างไม่ทันได้รู้ตัว เป็นอุปสรรคขัดขวางการเติบโตเรียกว่า Derailer ที่คนเรายิ่งมีความเก่งความสามารถมาก ก็ยิ่งมีด้านมืดมาก

เสน่ห์ของผู้นำ…ไม่ใช่คำตอบของ “ภาวะผู้นำ” เสมอไป

แม้ “เสน่ห์” จะเป็นคุณสมบัติที่ทำให้ผู้นำโดดเด่นและดึงดูดผู้คน แต่อย่าลืมว่า…เหรียญมีสองด้าน  สิ่งที่ดูดีในระยะสั้น อาจกลายเป็นกับดักในระยะยาว ด้านมืดของเสน่ห์ บางครั้งอาจค่อยๆ บั่นทอนทีม ส่งผลเสียต่อผลงานโดยรวม และทำให้พลังแห่งความผูกพัน (Engagement) ลดลงโดยไม่รู้ตัว

ลองมองลึกลงไป… เสน่ห์บางอย่างอาจแฝงความเปราะบางไว้เช่น:

ผู้นำที่มีความกล้าหาญ ชอบเสี่ยง → ดื้อรั้น หัวแข็ง ไม่ฟังความคิดเห็น

ผู้นำที่ขี้เล่น เป็นกันเอง → การละเลย ไม่เรียนรู้ประสบการณ์

ผู้นำที่คิดนอกกรอบ มีไอเดียใหม่ → ความเพ้อฝัน จับต้องไม่ได้

มาร่วมถอดหน้ากากคาริสม่า เพื่อสร้างทีมที่มั่นคงและปลอดภัย

หากเราจะมองให้ลึกลงไปมากกว่าความน่าประทับใจ บางคนมีจุดแข็งที่เหมาะสมกับงาน แต่ต้องทำอย่างไรถึงจะไม่ละเลยข้อเท็จจริงของ over-used strength หรือจุดแข็งที่ถูกนำมาใช้มากเกินไปจนอาจสร้างปัญหา วิธีการรับมือกับด้านมืดทั่วไปคือ

•  Forgiveness credit หรือการหักกบลบหนี้ คือการชูจุดเด่นที่เป็นข้อดีอันน่าเอาเป็นแบบอย่าง เพื่อให้สามารถยอมรับอยู่กับข้อเสียได้ อาจทำได้ง่าย เป็นที่นิยมแต่วิธีการนี้มักไม่ยั่งยืนและไม่ใช่การแก้ไขที่ตรงจุด

•  Strategic self-awareness การตระหนักรับรู้ถึงด้านมืดที่ตนเองมี โดยต้องทำอย่างมีทิศทางรู้ว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไร อาจจะใช้การประเมิน เช่น The Hogan Development Survey (HDS) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อระบุจุดแข็ง-จุดอ่อนของแต่ละตำแหน่งอาชีพ

ด้านมืดในที่ทำงาน เราจะรับมือกับความเสี่ยงอย่างไร

บ่อยครั้งที่เราเจอคนที่คำพูดสวยหรูดีดู แต่ผลงานจริงกลับออกมาขัดกับภาพลักษณ์ อาจเป็นเพราะคุณลักษณะที่เหมาะสมกับองค์กร แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้

•  Assess before hire / promote ประเมินก่อนการจ้าง

•  Strategic self-awareness ให้ผลตอบกลับโดยยึดจากข้อมูล Hogan data

•  Create accountability สร้างทีมที่แข็งแกร่งและทำการประเมินแบบ 360

•  Understand organization’s value and culture ทำความเข้าใจค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรเพื่อการปรับตัว หรือเลือกอยู่ให้ถูกที่

บทเรียนสำคัญจากเวทีนี้คือ “เสน่ห์ของผู้นำ” อาจช่วยสร้างแรงจูงใจในระยะสั้น แต่ไม่อาจทดแทนภาวะผู้นำที่แท้จริงซึ่งต้องอาศัยการตระหนักรู้ การประเมินที่มีหลักฐานรองรับ และความเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ องค์กรที่ต้องการผู้นำที่ยั่งยืน จึงต้องกล้ามองให้ลึกกว่าภาพลักษณ์ และพร้อมสร้างวัฒนธรรมที่เปิดเผย ปลอดภัย และกล้าสะท้อนตัวตนอย่างแท้จริง

เพราะการเลือกผู้นำที่ดีในวันนี้ คือการวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรในวันข้างหน้า

Tag:
Article
Share this post:
ณัชชา ทะละวงษ์

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
Article
7 เหตุผลที่คุณต้องมาฟัง Dave Ulrich ในงาน HR DAY – PMAT 60th Anniversary International HR Conference
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ก่อนหน้าที่ทาง PMAT จะได้มีโอกาสเชิญบุคลากรผู้ทรงคุณค่าในวงการ HR อย่างศาสตราจารย์ Dave Ulrich มาปรากฏตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้น หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า HR Competency กันมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า Employee Champion (ผมแปลเองเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า ผู้ชนะใจพนักงาน) เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว โลกของเรายังไม่ก้าวหน้ารวดเร็วเท่ากับยุคปัจจุบัน การเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ใน internet ก็ทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในระดับที่ “ทันกับเวลา” จึงทำให้ HR หลาย ๆ ท่านเจอกำแพงอุปสรรคของการพัฒนาตนเอง เพราะเนื่องจากยังไม่เข้าใจบริบทในภาพกว้างของโลก / ธุรกิจ จึงยึดติดกับการพัฒนางานของตนเองในระดับปฏิบัติการมากกว่า อาทิเช่น ทักษะการใช้เครื่องมือนำเสนอ หรือทักษะการใช้การจัดเก็บความรู้ แต่เรายังไม่เข้าใจถึงแก่นว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นการทำงานของเรา (HR Role and Competency) ให้ขึ้นมามีบทบาททางธุรกิจมากขึ้น และคนที่สะกิดบอกทั้งโลกว่า “เฮ้! งาน HR มันคืองานในระดับธุรกิจนะ” ก็คือ อาจารย์ Dave นี่เอง
October 7, 2025
Article
“ทำไม HR ต้องมีความกล้า” คำถามที่ท้าทายจาก Dave Ulrich
ชื่อของ Dave Ulrich ได้เป็นที่ยอมรับจากนักบริหารและผู้นำจากทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งใน Guru ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาภาวะผู้นำที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในระดับที่ปรับโฉมการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ เพราะสิ่งที่ Dave Ulrich นำเสนอผ่านการเขียน การเดินทางไปบรรยายทั่วโลกด้วยมุมมอง แนวคิดที่ตกผลึกมาจากงานวิจัยอย่างลงลึกต่อเนื่อง ทำให้กรอบแนวคิดแต่ละช่วงเวลาของท่านได้สร้างแรงกระเพื่อมในวงการบริหารไปทั่วโลก
October 5, 2025
Article
เหตุผลที่คุณควรมาฟัง Erin Meyer อีกครั้งในงาน PMAT 2025
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ครับว่าองค์กรระดับโลกอย่าง Netflix สร้างวัฒนธรรมที่กระตุ้นนวัตกรรมได้อย่างไร? หรือเคยเผชิญความท้าทายในการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานต่างวัฒนธรรมที่การสื่อสารเกิดความเข้าใจผิด? นี่คือโอกาสที่พวกเรากำลังจะได้รับมุมมองและแนวทางแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านวัฒนธรรมองค์กร Erin Meyer ซึ่งกำลังจะกลับมาแบ่งปันความรู้กับผู้ฟังชาวไทยอีกครั้งในงาน PMAT 60th Anniversary HR International Conference 2025 ในระหว่างวันที่ 12–13 พฤศจิกายน 2025 นี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี และเปิดเวทีให้นักวิชาชีพ HR, ผู้เชี่ยวชาญ L&D, ผู้นำองค์กร และผู้สนใจด้านวัฒนธรรมการทำงาน ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสุดยอดนักคิดระดับโลก
October 2, 2025