>
The HR Intelligence Era: เมื่อข้อมูลพนักงาน 500,000 คนเผยความลับของการอยู่ ลา และเติบโตในองค์กร
Article
July 3, 2025

The HR Intelligence Era: เมื่อข้อมูลพนักงาน 500,000 คนเผยความลับของการอยู่ ลา และเติบโตในองค์กร

ในโลกของการทำงานที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คำถามสำคัญที่หลายองค์กรกำลังเผชิญคือ “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพนักงานของเรากำลังคิดอะไร รู้สึกอย่างไร หรือมีแนวโน้มจะลาออกหรือไม่?” คำตอบของคำถามนี้ไม่ได้อยู่ที่การคาดเดาหรือสัญชาตญาณ แต่ซ่อนอยู่ใน “ข้อมูล” และ “เทคโนโลยี”

อัษฎาวุธ จิตตเสถียร หรือ คุณอาร์ม CEO แห่ง Human Soft ได้แบ่งปันมุมมองอันลึกซึ้งในเวที Thailand HR Tech 2025 ว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ “ยุคข้อมูลอัจฉริยะของ HR” ที่เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI สามารถเปลี่ยนวิธีคิด วิธีวิเคราะห์ และวิธีตัดสินใจของฝ่าย HR ไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อการลาออกคือค่าใช้จ่ายแฝงที่องค์กรมองข้ามไม่ได้

คุณอาร์มเริ่มต้นด้วยคำถามเรียบง่ายแต่ชวนคิดว่า  “ต้นทุนของการลาออกของพนักงานหนึ่งคนคือเท่าไหร่?”

คำตอบไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายในเชิงเงิน แต่ยังรวมถึง “ต้นทุนของเวลา” และ “โอกาส” ที่องค์กรต้องสูญเสียไป ทั้งกระบวนการประกาศรับสมัคร คัดเลือก สัมภาษณ์ อบรม และปรับตัวของพนักงานใหม่ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 2-3 เดือน และในช่วงเวลาดังกล่าว องค์กรยังต้องแบกรับภาระงานที่ค้างคาและการส่งมอบที่ไม่ต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ คุณอาร์มจึงนำ AI เข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยในการ วิเคราะห์พฤติกรรมของพนักงาน เพื่อหาสัญญาณหรือ "เบาะแส" ที่อาจบ่งบอกแนวโน้มของการลาออก ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง

ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์มีทั้งในมิติส่วนบุคคล เช่น เพศ อายุ รายได้ อายุงาน  รวมถึงพฤติกรรมในที่ทำงาน เช่น การมาสาย การขาดงาน การทำโอที และประสิทธิภาพการทำงาน

เมื่อรวมข้อมูลเหล่านี้เข้าด้วยกัน AI สามารถสร้างแบบจำลองเพื่อ “พยากรณ์ความเสี่ยงของการลาออก” ได้ล่วงหน้า ช่วยให้องค์กรมีเวลาวางแผนรับมือ พูดคุย หรือแม้แต่ปรับสภาพแวดล้อมเพื่อรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กรได้นานขึ้น

เพราะในยุคที่ “ข้อมูลคืออำนาจ” และ “การลาออกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” การมีระบบเตือนล่วงหน้าที่แม่นยำ จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญของ HR ในการดูแลและรักษาคน

เทคโนโลยีที่เข้าใจคน: เมื่อ AI ช่วยทำนายการลาออกได้แม่นยำถึง 83%

ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ของคุณอาร์มสร้างความประทับใจ เพราะ AI สามารถ ทำนายการลาออกของพนักงานได้แม่นยำถึง 83% หมายความว่า ในทุก ๆ 10 คนที่ระบบคาดการณ์ว่าจะลาออก จะมีถึง 8 คนที่ลาออกจริง

เบาะแสสำคัญที่บ่งชี้แนวโน้มการลาออก ได้แก่

– การมาสายเฉลี่ย 79 ครั้งใน 6 เดือน มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า

– ขาดงานโดยไม่แจ้งเฉลี่ย 5.8 ครั้ง มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปถึง 3 เท่า

– อายุงานน้อยกว่า 1 ปี มีแนวโน้มเปลี่ยนงานสูง

– การทำ OT ลดลง สะท้อนถึงการลดความผูกพันกับงาน

– สถานภาพโสด มีแนวโน้มลาออกมากกว่าผู้ที่แต่งงานแล้ว

จากข้อมูลนี้ คุณอาร์มได้พัฒนาระบบ “คะแนนความเสี่ยง” เพื่อให้ HR ประเมินสถานการณ์ได้อย่างเป็นระบบ

0–7 คะแนน: พฤติกรรมปกติ

8–11 คะแนน: เริ่มมีพฤติกรรมเสี่ยง

12–14 คะแนน: เสี่ยงสูง

15 คะแนนขึ้นไป: วิกฤต ควรดำเนินการเชิงรุกทันที

แต่คุณอาร์มย้ำว่า คะแนนเหล่านี้ไม่ใช่คำตัดสิน แต่เป็น “สัญญาณเตือน” เพื่อให้ HR เข้าใจสถานการณ์ และ “ลงมือ” ก่อนปัญหาจะเกิดขึ้นจริง

4 แนวทางสำหรับ HR ในการรับมือกับความเสี่ยงการลาออก

พูดคุยแบบไม่เป็นทางการ – ฟังอย่างเข้าใจโดยไม่ต้องรอถึงการประเมินรอบปี

สังเกตพฤติกรรมเปลี่ยนไป – เช่น ไม่เข้าประชุม หรือหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

ตรวจสอบความสัมพันธ์ในทีม – พูดคุยกับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน อาจพบต้นเหตุที่แท้จริง

เตรียมแผนสำรอง – โดยเฉพาะกรณีที่พนักงานคนนั้นมีบทบาทสำคัญ

คุณอาร์มสรุปอย่างชัดเจนว่า

 “เทคโนโลยีไม่ได้มาแทน HR แต่มายกระดับให้ HR ทำงานได้แม่นยำขึ้น มองเห็นภาพรวมได้แบบเรียลไทม์”

และที่สำคัญ HR ไม่ได้อยู่แค่เบื้องหลังอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่บทบาทผู้ขับเคลื่อนอนาคตขององค์กรด้วยข้อมูลเชิงลึกในมือ

Tag:
Article
Share this post:
พรรณวัฒน์ เจริญศิริ

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
Article
7 เหตุผลที่คุณต้องมาฟัง Dave Ulrich ในงาน HR DAY – PMAT 60th Anniversary International HR Conference
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ก่อนหน้าที่ทาง PMAT จะได้มีโอกาสเชิญบุคลากรผู้ทรงคุณค่าในวงการ HR อย่างศาสตราจารย์ Dave Ulrich มาปรากฏตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้น หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า HR Competency กันมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า Employee Champion (ผมแปลเองเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า ผู้ชนะใจพนักงาน) เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว โลกของเรายังไม่ก้าวหน้ารวดเร็วเท่ากับยุคปัจจุบัน การเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ใน internet ก็ทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในระดับที่ “ทันกับเวลา” จึงทำให้ HR หลาย ๆ ท่านเจอกำแพงอุปสรรคของการพัฒนาตนเอง เพราะเนื่องจากยังไม่เข้าใจบริบทในภาพกว้างของโลก / ธุรกิจ จึงยึดติดกับการพัฒนางานของตนเองในระดับปฏิบัติการมากกว่า อาทิเช่น ทักษะการใช้เครื่องมือนำเสนอ หรือทักษะการใช้การจัดเก็บความรู้ แต่เรายังไม่เข้าใจถึงแก่นว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นการทำงานของเรา (HR Role and Competency) ให้ขึ้นมามีบทบาททางธุรกิจมากขึ้น และคนที่สะกิดบอกทั้งโลกว่า “เฮ้! งาน HR มันคืองานในระดับธุรกิจนะ” ก็คือ อาจารย์ Dave นี่เอง
October 7, 2025
Article
“ทำไม HR ต้องมีความกล้า” คำถามที่ท้าทายจาก Dave Ulrich
ชื่อของ Dave Ulrich ได้เป็นที่ยอมรับจากนักบริหารและผู้นำจากทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งใน Guru ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาภาวะผู้นำที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในระดับที่ปรับโฉมการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ เพราะสิ่งที่ Dave Ulrich นำเสนอผ่านการเขียน การเดินทางไปบรรยายทั่วโลกด้วยมุมมอง แนวคิดที่ตกผลึกมาจากงานวิจัยอย่างลงลึกต่อเนื่อง ทำให้กรอบแนวคิดแต่ละช่วงเวลาของท่านได้สร้างแรงกระเพื่อมในวงการบริหารไปทั่วโลก
October 5, 2025
Article
เหตุผลที่คุณควรมาฟัง Erin Meyer อีกครั้งในงาน PMAT 2025
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ครับว่าองค์กรระดับโลกอย่าง Netflix สร้างวัฒนธรรมที่กระตุ้นนวัตกรรมได้อย่างไร? หรือเคยเผชิญความท้าทายในการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานต่างวัฒนธรรมที่การสื่อสารเกิดความเข้าใจผิด? นี่คือโอกาสที่พวกเรากำลังจะได้รับมุมมองและแนวทางแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านวัฒนธรรมองค์กร Erin Meyer ซึ่งกำลังจะกลับมาแบ่งปันความรู้กับผู้ฟังชาวไทยอีกครั้งในงาน PMAT 60th Anniversary HR International Conference 2025 ในระหว่างวันที่ 12–13 พฤศจิกายน 2025 นี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี และเปิดเวทีให้นักวิชาชีพ HR, ผู้เชี่ยวชาญ L&D, ผู้นำองค์กร และผู้สนใจด้านวัฒนธรรมการทำงาน ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสุดยอดนักคิดระดับโลก
October 2, 2025