>
การสื่อสารระหว่างสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์
July 20, 2021

การสื่อสารระหว่างสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์

ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ที่พูดถึงกันมากในทุกวันนี้ ยังไม่ได้สะท้อนรูปแบบการคิดหรือการตัดสินใจที่แท้จริงจากสมองของมนุษย์ แต่เป็นการจำลองเงื่อนไขว่าถ้าหากเกิดสิ่งนี้ ให้ทำแบบนี้ และเรียนรู้จากรูปแบบเพื่อทำซ้ำ หรือทำสิ่งที่แตกต่างไปในครั้งถัด ๆ ไปเท่านั้น แต่ภายใน 10 ปีข้างหน้า เทรนด์ของเทคโนโลยีจะพัฒนาไปสู่การติดต่อสื่อสารระหว่างคลื่นสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Brain-Computer Interface) หรือ BCI เพื่อควบคุมสมองเทียมอิเลคทรอนิกส์ของ AI ทำให้ AI ฉลาดขึ้น มีความคิดความอ่านอารมณ์และความรู้สึกทัดเทียมมนุษย์มากขึ้น

BCI เป็นศาสตร์ที่ผสมผสานความรู้ในเรื่อง คอมพิวเตอร์ ไฟฟ้าเคมี ระบบประสาทและสรีระวิทยา เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สมองของมนุษย์กับอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ สามารถเชื่อมประสานกันและสื่อสารกันได้ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารทางเดียว หรือการสื่อสารสองทาง ซึ่งจะนำไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น  การเชื่อมระบบประสาทเข้ากับอวัยวะเทียมช่วยให้สมองที่ยังดีอยู่ของคนที่เป็นอัมพาต สามารถถ่ายทอดออกคำสั่งไปยังแขนกลหรืออุปกรณ์ช่วยเดิน และการเชื่อมระบบประสาทกับเทคโนโลยีที่ให้สัมผัสความรู้สึกในการเข้าสู่โลกเสมือนจริง (Virtual Reality หรือ VR) โดยไม่ได้จำลองเพียงภาพและเสียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสาทสัมผัสรับรู้ถึงแรงป้อนกลับหรืออุณหภูมิจากการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ในโลกเสมือนจริงที่สร้างขึ้น รวมทั้งการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจิต คือ การรับรู้ (Recognition) กับกระบวนการคิดภายในสมอง ซึ่ง เรย์มอนด์ เคิร์ซวีล (Raymond Kurzweil)  นักทำนายอนาคตคนสำคัญของโลกได้เคยคาดการณ์ไว้ว่า ภายใน ค.ศ. 2045 มนุษย์จะสามารถอัพโหลดข้อมูลจากสมองไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ และหลังจากนั้นจะเชื่อมต่อสมองกลซึ่งรวมถึงการรับรู้ทางจิตเข้ากับร่างกายคนได้จริง ๆ

ปัจจุบันนี้มีหลายหน่วยงานกำลังพัฒนา BCI ให้สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำบัน เช่น หน่วยงานวิจัย Building 8 ของ Facebook มีโครงการชื่อ “Brain-Computer Speech-to-Text Interface” ที่จะแปลความคิดในสมองของมนุษย์ให้สามารถสั่งการไปยังคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องพูดหรือใช้การสัมผัสใดๆ โดยเป้าหมายแรก คือการทำให้มนุษย์สามารถสั่งพิมพ์ข้อความโดยตรงจากสมอง ซึ่งจะเร็วเป็น 5 เท่าของการพิมพ์ด้วยนิ้วมือ และจะพัฒนาให้มนุษย์สามารถใช้ความคิดพิมพ์ข้อความได้ถึง 100 คำต่อนาที นอกจากเรื่องของการใช้สมองสั่งงานเพื่อการพิมพ์แล้ว อีกหนึ่งแผนการของ Facebook คือ การสร้างเทคโนโลยีใหม่แห่งการสื่อสารผ่านผิวหนัง ซึ่ง Facebook ระบุว่าเทคโนโลยีที่ว่านี้จะทำหน้าเสมือนอวัยวะส่วนหนึ่งของหู ที่จะเปลี่ยนเสียงให้กลายเป็นคลื่นความถี่ก่อนจะส่งไปยังสมอง และแปลงรหัสให้กลายเป็นเสียงเพื่อการได้ยิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้พิการหูหนวก ขณะที่บริษัทรถยนต์นิสสันก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Brain to Vehicle (B2V) โดนใช้ระบบ BCI ตรวจจับคลื่นสมองของคนขับรถ และให้รถยนต์เดาสิ่งที่ผู้ขับกำลังจะทำ หากตรวจจับได้ว่ากำลังจะหักพวงมาลัยเลี้ยวซ้าย ระบบก็จะหักพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายให้ก่อนที่มือของผู้ขับจะขยับพวงมาลัยประมาณเสี้ยววินาที

การบริหารทรัพยากรบุคคลในองค์กรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เมื่อการสื่อสารระหว่างสมองของมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ (Brain-Computer Interface) กำลังกลายเป็นจริง สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในด้านบวก เช่น ผลิตภาพ (Productivity) ในงานธุรการที่เพิ่มขึ้น เช่นการพิมพ์เอกสาร สำหรับการบริหารและถ่ายทอดองค์ความรู้โดยเฉพาะที่เป็นความรู้ที่ไม่ปรากฏชัดแจ้งแต่ฝังอยู่กับตัวบุคคล (Tacit Knowledge) จะไม่สูญหาย สามารถเก็บรักษาไว้ได้ในสมองเทียมอิเลคทรอนิกส์ ในเรื่องการบริหารผลงาน (Performance Management) พนักงานที่ฝัง Smart Chip ไว้ในสมองเพื่อเชื่อมต่อกับสมองเทียมจะมีผลงานดีกว่าพนักงานทั่วไป ซึ่งในที่สุดองค์กรอาจต้องให้การฝัง Smart Chip เป็นสวัสดิการที่เบิกได้เช่นเดียวกับการเบิกค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

ความพยายามในการทำให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ “คิด”และ “ตัดสินใจ” ในรูปแบบเดียวกับที่สมองของมนุษย์คิดและตัดสินใจมีความก้าวหน้าไปมาก มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้ง Facebook เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมเชื่อว่าวันหนึ่งเทคโนโลยีจะทำให้เราติดต่อสื่อสารกันผ่านความคิดได้ คุณแค่คิดอะไรออกมา แล้วเพื่อนคุณก็จะสัมผัสประสบการณ์ได้ (แบบเดียวกับคุณ) หากคุณอนุญาต” ที่น่าสนใจกว่าคำพูดของมาร์ค ก็คือ โลกเราพร้อมสำหรับเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์แล้วหรือยัง เพราะเมื่อเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาและใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ เราจะไม่มีวันหันหลังกลับไปสู่โลกใบเดิมได้อีกเลย

Reference

ฐานเศรษฐกิจ Online, 2561. ‘การสื่อสารระหว่างสมองมนุษย์และคอมพิวเตอร์’, 19 มิถุนายน 2561.

HR Society Magazine, ‘การสื่อสารระหว่างสมองมนุษย์และคอมพิวเตอร์ (Brain-Computer Interface)’, ธรรมนิติ.Vol. 16, No 183, หน้า 66-69, มีนาคม 2561

Tag:
No items found.
Share this post:
ดร.ณัฐวุฒิ พงศ์สิริ

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024