>
สร้างทีมทำงานทางไกลเทพๆ แบบไม่ต้องรอเทพจุติ
September 8, 2021

สร้างทีมทำงานทางไกลเทพๆ แบบไม่ต้องรอเทพจุติ

ดูเหมือนว่าการทำงานของเรายังคงต้องอาศัยการทำงานที่บ้านอีกระยะใหญ่ ๆ ซึ่งตลอดการทำงานจากที่บ้านขององค์กรในไทยที่เริ่มกันตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว จนมาถึงบัดนี้ ซึ่งก็มีงานวิจัยมากมาย ทั้งในเชิงว่าการทำงานจากที่บ้านจะมีประสิทธิภาพที่ดี เช่น งานวิจัยจาก Bloomberg ได้ชี้ให้เห็นว่า การทำงานที่บ้านช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นถึง 5% หรืออย่างเช่นการที่ Ctrip ที่เป็นบริษัทท่องเที่ยวในประเทศจีน ได้ทำการทดลองให้พนักงานทำงานที่บ้าน ก็พบว่าสามารถช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นถึง 13% และลดการลาออกของพนักงานได้ถึง 50% และในขณะเดียวกันก็มีงานวิจัยที่เห็นเรื่องนี้ในทางตรงกันข้าม โดยมองว่าการทำงานที่บ้าน จะทำให้ผลเสียต่อประสิทธิภาพ หรือทีมงานเช่น งานวิจัยของ Nicholas Bloom จากมหาวิทยาลัย Stanford ได้มองว่าการทำงานจากที่บ้านถ้าหากไม่ได้บริหารจัดการให้ดี สภาพแวดล้อมภายในบ้านจะก่อให้เกิดผลเสียต่อประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าผลดี หรือจากงานวิจัยในบทความ Cognitive performance in the home office—What professional chess can tell us ได้เผยให้เห็นว่า งานในลักษณะ Routine หรืองานที่ไม่ซับซ้อนมาก จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อได้ทำงานจากที่บ้าน แต่ถ้าเป็นงานที่ซับซ้อน หรือต้องแก้ไขปัญหาที่ยาก การทำงานที่บ้านจะทำให้รู้สึกว่ามีประสิทธิภาพในการทำงานที่แย่ลง และที่สำคัญเมื่อเวลาที่เราวัดประสิทธิภาพในการทำงาน เรามักจะวัดว่าในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง การทำงานนั้นสำเร็จมากน้อยเพียงใด แต่ไม่ได้ไปวัดเวลาจริง ซึ่งก็ส่งผลกระทบมาที่ความเครียดที่เพิ่มขึ้นของพนักงาน หรือตัวเราที่ต้องปฎิบัติงาน ซึ่งเมื่องานวิจัยมากมายตีกันเองขนาดนี้ ก็อดคิดไม่ได้ว่าหรือต้องรอให้มีน้องเทพ ๆ รับผิดชอบงานดี ๆ มาอยู่ในทีม เราถึงมีโอกาสได้ผลงานที่ดีจากการทำงานทางไกลได้

อย่างไรก็ดีแม้งานวิจัยจะมีความเห็นแตกกันเป็นสองทาง แต่ Harvard Business Review ได้มีการวิจัยถึงบริษัทที่ทำงานได้ดีในช่วงการทำงานระยะไกลในช่วงโควิดแบบนี้ จากงานวิจัยพบว่าเป็นบริษัทที่ยังคงสร้างประสิทธิภาพได้ดีจะสามารถจัดการได้ดีใน 3 เรื่องที่สำคัญกับพนักงาน คือสามารถจัดการ”เวลา” การทำงานได้อย่างดี จัดการ”คนเก่ง” ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ และสุดท้ายคือจัดการ “พลังงาน” ซึ่งจากสามเรื่องนี้ ซึ่งเราสามารถนำสามเรื่องนี้มาปรับปรุงในระดับทีมงานของเราเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ดังนี้

1. สร้างทีมที่ Engage และจูงใจพนักงานให้เกิดพลังงานที่ดีได้: จริง ๆ ข้อนี้ทุกคนอาจจะทราบกันอยู่แล้ว ตั้งแต่ไม่ต้องทำงานทางไกลว่า การที่พนักงานมี Engagement จะสร้างพลังงานที่ดีในทีมและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดี ซึ่งในการทำงานทางไกลก็เช่นกันจากงานวิจัยของ HBR พบว่า พนักงานที่ engage กับบริษัท จะทำงานได้ดีขึ้นกว่าพนักงานทั่วไปที่แค่พึงพอใจกับบริษัทถึง 45% เพราะพนักงานที่มีความ engage กับองค์กรสูงมีแนวโน้มที่จะทุ่มเทเวลาทำงานอย่างเต็มที่แม้ไม่ได้อยู่ที่ทำงาน

ส่วนการสร้างความ Engage ให้กับทีมงานหรือบริษัท เราสามารถเริ่มต้นจากง่ายๆให้มีการไต่ถามสารทุกข์สุขดิบระหว่างพนักงานในทีมงาน เพิ่มการพูดคุยสารทุกข์สุขดิบบ้างนอกจากการประชุมตามปกติ รวมไปถึงการชี้แจงและเน้นย้ำถึงเป้าหมายของทีมงานเราอย่างชัดเจน ทำให้ทีมงานเห็นว่างานของเขาแม้จะไม่ได้ทำในที่ทำงาน ก็ยังมีความเกี่ยวข้องและส่งเสริมต่อความสำเร็จขององค์กรได้เช่นกัน โดยอาจจะสร้างช่วงเวลาการสื่อสาร หรือจะเป็นการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการก็ได้ นอกจากนี้แล้วอาจจะสร้างกิจกรรมต่างๆให้เกิดความรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ตัวตนของแต่ละคนจะอยู่ไกลกัน โดยท่านสามารถเอาแนวทางการสร้าง engagement ของ HR จากบทความ HR กับการสร้าง Engagement ผ่านระบบ online ในช่วง Work from Home ของคุณภคภัค สังขะสุนทร ใน Khon at work ก็สามารถนำมาเป็นแนวทางในการสร้างความผูกพันกันในทีมงานของคุณก็ได้

2. สร้างทีมที่สามารถทำให้ทีมงานสามารถ Focus กับตัวงานได้: การทำงานที่บ้านส่งผลให้เกิดพายุงานมากมาย จากงานวิจัยของ Raffaella Sadun, Jeffrey Polzer และคณะ ได้รวบรวมและวิเคราะห์การทำงานของคนในเมืองใหญ่ 16 เมืองทั่วโลกพบว่า เวลาการทำงานจริงๆของพนักงานเพิ่มขึ้น 48.5 นาทีในการทำงานที่บ้าน ซึ่งในองค์กรที่สามารถบริหารจัดการได้ดีก็จะทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 5% หรือมากกว่า

มีความพยายามมากมายของบริษัทที่จะบริหารจัดการให้พนักงาน Focus กับตัวงาน ซึ่งอย่างที่เห็นกันบ่อยๆก็คือการประชุมติดตามงานมากขึ้น การให้เข้าร่วมประชุมมากขึ้น มีงานวิจัยยืนยันเรื่องนี้จากการศึกษาของ Harvard Business School และ New York University พบว่าในช่วงการ Work from home ยุคโควิด ทำให้การประชุมมากขึ้น 12.9% และมีผู้เข้าร่วมประชุมมากขึ้น 13.5% อีกด้วย ซึ่งเจ้าการประชุมนี้ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพหรือ Focus เลยแม้แต่น้อย หากแต่ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง 2-3% เสียด้วยซ้ำ

หนทางที่ดีกว่าอาจจะเป็นการจัด Dashboard ในการติดตามงานที่มีการแยกประเภทของงานอย่างชัดเจน ไม่ต้องรวมกันเป็น Dashboard เดียว จะทำให้เราสามารถแยกประเภท และติดตามงานกันได้สะดวกมากขึ้น และอีกวิธีที่น่าสนใจคือ การสื่อสารเท่าที่จำเป็น หากเราเคยดูการ์ตูนของ DC เรื่องแบทแมน เราอาจจะเคยได้ยินการส่งสัญญาณค้างคาวบนท้องฟ้า เมื่อเกิดกรณีสำคัญๆ แล้วแบทแมนก็จะออกปฎิบัติการ ซึ่งเราก็สามารถนำมาปรับใช้กับการสื่อสารภายในทีมงานของเรา ให้เกิดประโยชน์และสร้างความ Focus ในสิ่งที่จำเป็นที่สุด โดยใช้ แผนผังตามรูปที่ 1 จะเห็นได้ว่าเราไม่จำเป็นต้องประชุมในทุกๆเรื่อง แต่เราสามารถเลือกวิธีการอื่นเช่นการส่งข้อความ การอีเมล์ โดยเราดูจากความเร่งด่วนและสำคัญของงานเรานั้นประกอบได้

3. สร้างทีมที่เปิดกว้างต่อวิธีการทำงานใหม่เพื่อให้กลุ่มคนเก่งสามารถสร้างความแตกต่างได้: กลุ่มคนเก่งที่สามารถที่จะสร้างสรรค์งานในรูปแบบใหม่ ๆได้เป็นกลุ่มที่มีน้อยและจำกัดมาก แต่การทำงานภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด แต่ให้อิสระอย่างการทำงานที่บ้านนี้ มีโอกาสที่ทำให้เราได้ค้นพบคนเก่งที่อาจจะซ่อนอยู่ในทีมของเราให้เขาได้ปลดปล่อยพลังแฝงออกมา และนำพาความสำเร็จมาสู่ทีมงานได้

วิธีหนึ่งที่เราสามารถนำมาใช้กับทีมงานของเราเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกทีมได้ทำอะไรใหม่ ๆ คือการทำงานแบบ Tight-Loose-Tight กล่าวคือไม่ต้องมีการกะเกณฑ์ หรือจับตาดูตลอดเวลา แต่เน้นไปที่การสั่งงานช่วงต้นที่ชัดเจนว่าเป้าหมายในสิ่งที่เราอยากได้นั้นคืออะไร ส่วนเรื่องวิธีการทำงานปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกทีมเรา และสุดท้ายปิดด้วยการเข้มงวดกับผลลัพธ์ว่าได้ตามเป้าหมายที่ทีมต้องการหรือไม่ พร้อมทั้งมีการ Feedback อย่างชัดเจนว่า อะไรที่ดี อะไรที่ใช้ได้ และกล่าวคำชื่นชมกับทีมงานคนนั้นๆ หากมีผลลัพธ์ที่ดีเกิดขึ้นจากการทำงานนั้น ๆ

จากแนวทางสามข้อนี้ที่สามารถนำไปปรับปรุงวิธีการทำงานในทีมของเรานี้ จะเห็นได้ว่าการสร้างประสิทธิภาพในการทำงานให้กับทีมงานของเรา ไม่ได้ขึ้นกับการที่เราจะมีคนเก่งคนดีในทีมงานของเราอย่างเดียว แต่รูปแบบการทำงาน และการบริหารจัดการทีมงานของหัวหน้างานก็เป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันในการจะสร้างที่ให้เติบโต และมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ตอบโจทย์ขององค์กรและธุรกิจได้ตามเป้าหมายขององค์กร โดยไม่ต้องรอให้มีเทพเจ้ามาสถิตในทีมงานเราก็ได้

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Ref.

https://www.forbes.com/sites/tracybrower/2021/01/17/think-productivity-with-work-from-home-is-improving-think-again-heres-what-you-must-know/?sh=12f3adec2d67

https://www.forbes.com/sites/adigaskell/2021/05/31/how-productive-have-remote-workers-been-during-covid/?sh=5c7f1ade639e

https://hbr.org/2020/01/create-a-productivity-workflow-that-works-for-you

https://hbr.org/2020/12/the-pandemic-is-widening-a-corporate-productivity-gap

https://hbr.org/2021/01/productivity-is-about-your-systems-not-your-people

Tag:
No items found.
Share this post:
วัฒนศักดิ์ วิบูลย์ชัยกุล

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024