>
รู้จักมักจี่ KBTG
February 17, 2021

รู้จักมักจี่ KBTG

KBTG มีทีม Innovation ที่ไม่ได้เน้นเพียงแค่เทคโนโลยี เราตระหนักว่าเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญคือความาสามารถในการนำเทคโนโลยีมาสร้างคุณค่าให้ชีวิตคนดีขี้น เราทำงานแข่งกับเวลาในรูปแบบที่กระชับกะทัดรัด ค่อนข้างเฉพาะกิจ มีการตั้งเป้าแบบสั้นๆ หาวิธีที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่และทดลองอย่างรวดเร็ว

ถ้า Fail ก็ Fail Fast เราเลือกที่จะไม่พยายามเปลี่ยนองค์กรใหญ่ที่เป็นเรื่องยากเนื่องจากขนาดและ legacy ต่างๆ แต่เลือกที่จะจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อนำร่องในการตอบโจทย์นวัตกรรมใหม่ และทดลองสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการสร้างนวัตกรรม ที่ไม่เพียงแต่สถานที่ทำงานที่ส่งเสริมให้เกิดการคิดต่างอย่างสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวิธีการใหม่ในการวัดผลหรือ KPIs ที่ส่งเสริมให้มีการลองไอเดียใหม่ๆและสามารถผิดพลาดได้อย่างมีหลักการอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าวิธีการแบบเดิมๆ ที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจที่เน้นการสร้างรายได้และการลดต้นทุนเป็นหลักนั้นไม่สามารถผลักดันให้เกิดการทำงานในโหมดของนวัตกรรมได้อย่างเพียงพอ นอกจากนั้นการสร้าง Entrepreneurial Spirit ให้กับพนักงานว่าไม่ใช่การทำงานในหน้าที่เพื่อตอบโจทย์การประเมินผลงาน แต่ให้รู้สึกว่าสิ่งที่ทำนั้นคือธุรกิจของตัวพนักงานเอง ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าที่มาที่ไปของสิ่งที่ทำคืออะไร ลูกค้าต้องการอะไร สิ่งที่เราตอบโจทย์เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วเป็นอย่างไรต้องมองเห็นองค์รวม (Holistic View) เหล่านี้เนื่องจากในองค์กรใหญ่ไม่มีการเชื่อมโยง พนักงานบางคนทำงานแต่ไม่เห็นหน้าลูกค้า งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้แทบไม่รู้เลยว่ามาได้อย่างไร แต่ที่ต้องทำ เพราะถูกกำหนดให้ทำโดยตำแหน่ง....ทำแล้วก็ไม่เห็นว่างานที่ทำนำไปใช้เป็นอย่างไร ฉะนั้นแล้วในบริบทใหม่ของดิจิทัล และนวัตกรรม องค์กรจะต้องทำให้พนักงานเห็น และซาบซึ้งในผลของงานที่ได้ทำไปจะทำให้เกิดประสิทธิภาพและความเป็นเจ้าของร่วมกันกับองค์กรของพนักงาน

ที่น่าสนใจคือจะเห็นได้ว่า KBTG เป็น Technology Company ที่ไม่มีคำว่า Technology อยู่ใน Core Values ของบริษัทเลย Core Values ของ KBTG อย่างแรกคือ Value Creation เพื่อเน้นว่า Technology ที่ดีและมีความหมายต้องเป็นเทคโนโลยีที่สร้างคุณค่าและทำให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้น สองคือ Innovation เราสร้างคุณค่าผ่านนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ที่ได้ต้นแบบความคิดมาจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลุกซึ้ง อันที่สามคือ Agility คิดไวทำไวมีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น Fail Fast ....ทีนี้ลองมองว่าการสร้างคุณค่าผ่านนวัตกรรมแล้วทำให้ชีวิตคนดีขึ้นได้อย่างไร ทุกเดือนจะมีการจัดอีเว๊นซ์เพื่อสื่อสารให้กับพนักงานทราบว่าคำว่าดีขึ้นคืออะไร โดยการเชิญคนจากด้านนอก ผลงานที่ทำบ้าง สัมภาษณ์ลูกค้า ทำเป็นวีดีโอเปิดให้พนักงานดูว่าสิ่งที่ได้ทำ....โปรแกรมที่ได้เขียนไปนั้นทำให้ชาวนาคนนี้ มีโอกาสมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องขายข้าวให้โรงสี ปลูกข้าวโดยใช้สารเคมี สุขภาพไม่ดี.....มาพอถึงตอนนี้เขาสามารถขายตรงได้ มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นสามเท่า เขาสามารถทำออแกรนิคได้ มีความสุข เพราะสุขภาพดี โดยแนวคิด “พ่อปลูกลูกขาย” กลายเป็นธุรกิจครอบครัว.....นี่คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของจริงมาเปิดให้กับพนักงานได้ดู สิ่งหวังคืออยากให้พนักงานเกิดความรู้สึกร่วมเกิดความเชื่อเป็นแรงผลักดันเลิกสนใจว่าตัวเองทำงานหน้าบ้านหรือหลังบ้าน เพราะทำให้พนักงานรู้สึกว่าถึงแม้จะอยู่หลังบ้านแต่ก็สร้างคุณค่าและทำให้ชีวิตคนดีขึ้นได้

โดยส่วนตัวแล้วสิ่งสำคัญที่สุดในความสำเร็จที่ผ่านมาก็คือ “คน” และสิ่งที่ท้ายทายที่สุดก็คือ “คน” เช่นกัน สำหรับเทคโนโลยีนั้นเราสามารถที่จะควบคุมได้ แต่เรื่องของคนนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายภายใต้ข้อจำกัดของเงื่อนไขและมุมมองที่แตกต่าง.....ที่ผ่านมาในอดีต การสรรหาคนนั้นสามารถดูได้จาก transcript ที่เป็นเสมือนมาตรวัดว่าเก่งแค่ไหนในสิ่งที่เรียนมา (หรือความสามารถในการทำข้อสอบ) แต่ในการก้าวสู่ยุคของการสร้างมูลค่าทางธุรกิจผ่านนวัตกรรมนั้น เราต้องสามารถวัดความสามารถและคุณภาพในด้านอื่นๆ ที่สำคัญกว่า อาทิเช่น Entrepreneurial Spirit, Passion, Creativity ที่ไม่ได้ระบุไว้ใน transcript ได้อีกด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะวัดได้อย่างไรเพื่อให้ได้คนที่รอบรู้ (well-rounded person) เข้ามาทำงาน เพื่อเป็นนักคิดเป็นนวัตกรให้กับองค์กร ถ้าอนาคตอันใกล้นี้เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยคิดงานแทนคน เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เรารับเข้ามาสามารถคิดได้ สร้างสรรค์ได้ เพราะฉะนั้นอยากฝากให้กับ HR ทุกที่ ให้คุยกับ Line Manager แล้วร่วมกันคิดหาวิธีการกลั่นกรองคัดเลือกคนที่จะเข้ามาทำงาน ซึ่งในอนาคตจะไม่ใช่แค่ Single Discipline ซึ่งในอดีตจะค่อนข้างง่ายจาก Job Role ที่สามารถบ่งบอกว่ามีความถนัดในด้านใด แต่จะเปลี่ยนไปเป็น Multi Discipline ในอุดมคติคือคนที่สมองซีกซ้ายและซีกขวามีประสิทธิภาพเท่ากัน ส่วนนี้เป็นเรื่องสำหรับคนใหม่ สำหรับคนเก่าจะต้องคิดว่าจะสร้างทักษะใหม่ให้เขาได้อย่างไร การเข้ามาของเทคโนโลยีจะส่งผลกระทบของงาน HR อย่างมาก เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับคนโดยตรง HR จะต้องยกระดับตัวเองขึ้นมา ต้องสร้างนวัตกรรมทางด้าน HR ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นยุคทองและท้าทายสำหรับ HR ที่ต้องก้าวข้นไปและสร้างนิยามใหม่ให้กับงาน

Tag:
No items found.
Share this post:
KHON

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024