>
HR จะเอาตัวรอดอย่างไรกับการมาถึงของ AI Chatbot "Chat GPT"
February 6, 2023

HR จะเอาตัวรอดอย่างไรกับการมาถึงของ AI Chatbot "Chat GPT"

การแก้สมการ การเขียนโปรแกรม การแปลภาษา การเขียนสูตรอาหาร หรือการวางแผนการเดินทางเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว ไปจนถึงการเขียนนิยาย หรือนิทาน

นี่คือสิ่งที่เทคโนโลยี AI สามารถทำแทนมนุษย์ได้แล้ว แบบเห็นชัดๆ ณ บัดนี้

Chat GPT เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานของOpenAI บริษัทที่ทำการศึกษาและหา Solution ใหม่ๆโดยใช้ AI เป็นพื้นฐาน บริษัทนี้ก่อตั้งโดย Elon Muskและยังได้รับเงินสนับสนุนจากเขาจนถึงปัจจุบัน อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าChat GPT ใช้เทคโนโลยี AI นำมาสร้างเป็นAI Chatbot ทำอะไรได้บ้าง เทคโนโลยีนี้น่าจะทำให้พวกเรา HR คงจะหนาวๆร้อน และไม่ควรที่จะมองข้ามอยู่ไม่น้อยและควรจะศึกษาว่าเทคโนโลยีนี้จะมีผลกระทบกับเรายังไงบ้าง สุดท้ายมันจะมาทำงานแทนที่พวกเราได้ไหมใครอยากจะเห็นวิธีการใช้งาน (Use Cases) เพิ่มเติมผมแนะนำให้ดู Youtube ช่องของ 9arm ตามนี้ได้เลยนะครับ https://www.youtube.com/@9arm.

จากเนื้อหาที่อ้างถึงโลกยังไม่พร้อมมือจะรับมือกับเทคโนโลยีล้ำๆแบบนี้ภายในวันสองวัน พวกเราทุกคนก็คงรับรู้มาอย่างต่อเนื่องอยุ่แล้วว่าวันหนึ่ง AI หุ่นยนต์ หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ จะสามารถเข้ามาทำงานแทนเราได้แต่ก็คงจะเป็นความจริงที่ยากลำบากพอสมควรในการยอมรับ เพราะมันจะกระทบกับการทำงานของเราโดยตรงถ้าหุ่นยนต์ทำงานแทนเรา แล้วเราจะไปทำอะไรเพื่อหาเลี้ยงชีพเราล่ะ? หลายๆอาชีพเริ่มถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่เราเป็นคนสร้างขึ้นมาเองเช่น พนักงาน Call Center เราเริ่มเห็นว่าปัจจุบันนี้การโทรหาCall Center แล้วจะได้คุยกับพนักงานที่เป็นมนุษย์เริ่มยากขึ้นทุกที ไม่เหมือนสมัยในอดีตหรืออย่างนักแปลภาษาแปลบทความ ในยุคสมัยนี้ การแปลประโยคยาวๆ โดยเครื่องมือต่างๆก็ยิ่งสมบูรณ์ แปลได้เหมือนคนมากขึ้นไปทุกที อาชีพนักแปลที่ไม่ได้มีศัพท์เฉพาะหรือการแปลสำนวนพิเศษ ก็อาจจะต้องถูกแทนที่ไปจริงๆด้วยเทคโนโลยีนี้ เพราะฉะนั้น การที่เราจะปิดกั้นการพัฒนาและการมาถึงของเทคโนโลยีสมัยใหม่เราคงจะทำไม่ได้แต่เราจะเปิดรับอย่างไร และปรับตัวอย่างไร คงเป็นเรื่องที่สำคัญ และต้องรีบแก้ไขมากกว่า

 

AI จะเข้ามาแย่งงานพวกเราทำหรือไม่

จากการรายงานของ FortuneBusiness Insights พบว่า องค์กรให้ความสำคัญและเพิ่มการลงทุนด้านHR Technology จาก 2 หมื่น 4 พันล้าน USD ในปี 2021 ไปเป็น3 หมื่น 5 พันล้าน USD ภายใน3 ปีข้างหน้านี้ สาเหตุที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นเพราะกระบวนการงานด้านHR และเรื่องการดูแลคนเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้องค์กรประหยัดเวลาในการทำงาน และเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการจ้างงานได้เดิมเคยใช้คนจำนวนมาก พอนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อาจจะช่วยลดคนได้หรือไม่ต้องใช้คนในงานบางงานหรือการทำรายงานข้อมูลต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติอาจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวสำหรับการจ่ายค่าทำงานล่วงเวลาเพื่อทำงานที่ต้องใช้เวลาของมนุษย์ทำมากๆในลักษณะงานแบบนั้น

 

การใช้เทคโนโลยีทำให้เกิดประสิทธิภาพในงานบางลักษณะเพิ่มมากขึ้นช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนในระยะยาว ในทางกลับกันการใช้เทคโนโลยีนี้วันหนึ่งก็อาจจะมาทำลายความมั่นคงในของเราเองด้วยเช่นกันเราอาจจะตกงานเพราะเทคโนโลยีที่เราเป็นคนนำเข้ามา พวกเราต้องพยายามหาให้เจอว่าอะไรคือคุณค่าของงานที่ต้องใช้ "มนุษย์"เป็นผู้ทำด้วยตนเองเท่านั้นและการใช้เทคโนโลยีมีประโยชน์ในการเป็นส่วนเพิ่มหรือเป็นผู้ช่วยของเราเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่เราเป็นผู้ดูแลขึ้นไปอีกขั้น

 

ถือเป็นโชคดีของงาน HR จากมุมมองของผมคิดว่างานของเรา (ถ้าทำถูกบทบาท และสร้างคุณค่าได้) ค่อนข้างยากที่จะถูกเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้Disrupt ได้ เพราะคุณค่าในงานของ HR คืองานที่เราจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนปัจจุบันนี้ก็ยังเชื่อว่าพนักงานเลือกที่จะโทรหาหรือ Chat หาHR เวลาที่มีปัญหา มากกว่าจะหาข้อมูลเองแม้ว่าจะเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้วก็ตามหรือบางครั้งเวลาเราโทรเข้า Call Center แล้วบางทีเกิดความไม่เข้าใจแก้ปัญหาไม่ตรงโจทย์ หรือบางครั้งเรามีปัญหามากกว่า 1 ปัญหาที่Call Center AI ไม่สามารถแก้ไขจนสามารถสร้างความพึงพอใจให้เราได้ในคราวเดียวทำให้เราก็มีความพยายามและอดทนที่จะกด “0”หรือต้องการคุยกับเจ้าหน้าที่อยู่ดี การถาม-ตอบแบบมนุษย์ด้วยกันเทียบกับ มนุษย์-หุ่นยนต์มีความแตกต่างกัน ในกรณีของพนักงานที่โทรหาHR อาจจะต้องการการปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับทางด้านจิตใจ ต้องการความเห็นอกเห็นใจความเข้าใจ ซึ่งขณะนี้ AI ยังไม่สามารถเข้าใจมนุษย์ในเชิงลึกได้หรือในบางครั้งการตีความคำสั่งที่มาจากมนุษย์ก็ยังเป็นสิ่งที่ยากสำหรับ AI แม้ว่าจะได้รับการฝึกฝนมาเยอะ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์เมื่อเทียบกับการให้มนุษย์คุยกัน

 

โต้คลื่นไปกับการทำงานแบบ HR x AI

 อย่างที่เล่าไปทั้งหมดการคิดว่า AI จะมาแย่งงานเราทำก็จริงๆอยู่ที่มีโอกาสเป็นไปได้ แต่เราเองก็ควรจะปรับบทบาทของตัวเองให้พร้อมรับมือกับAI หรือรวมถึงเทคโนโลยีอะไรก็ตามที่จะเข้ามาในงานที่เราทำ ถ้าเราปรับตัวได้เราก็จะสามารถโต้คลื่นไปกับมันใช้ประโยชน์จากมันได้ แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย เราจะถูกกลืนกินไปกับกระแสของเทคโนโลยีและจะต้องไปทำงานที่เราไม่อยากทำอย่างแน่นอนสิ่งที่เราควรเริ่มคือการศึกษาเทคโนโลยี AI ในสายงานของเราอย่างจริงจังพยายามทำความเข้าใจทดลองใช้ ทำให้เทคโนโลยีเป็นผู้ช่วยของเรา ในขณะที่เราก็ใช้จุดแข็งความเป็นมนุษย์ในการเป็นผู้ลงมือทำและเป็นผู้ควบคุมเทคโนโลยีให้อยู่หมัด และชูคุณค่าของการปฏิสัมพันธ์ในงานด้วยมนุษย์ให้สำเร็จ

 

หัวใจสำคัญของการเลือกใช้ AI คือการพิจารณาว่าอะไรควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AI และอะไรควรเป็นหน้าที่ของมนุษย์

อะไรควรจะ Automate หรือควรจะ Manual โดยหลักการการใช้เทคโนโลยีสามารถตัดอคติในการตัดสินใจได้แต่ในบางครั้งเทคโนโลยีก็ขาดวิจารณญาณแบบมนุษย์ที่พึงคิดและทำได้เช่นเดียวกัน ถือเป็นงานยากในการตัดสินใจในแต่ละเรื่องว่าควรจะแบ่งบทบาทหน้าที่อย่างไรซึ่งก็คงจะต้องทดลองใช้ทดลองทำไปเรื่อยๆในแต่ละงาน จึงจะรู้ว่าแบบไหนจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดและเราเองก็ต้องส่งมอบการทำงานแบบมนุษย์ให้ได้ดีที่สุด เช่นความเข้าใจแบบมนุษย์เข้าใจกัน (Empathy Humanize) การมีจิตใจให้บริการ(Service Mind)

 

การสรรหาและคัดเลือกจากเดิมต้องคัดใบสมัครกันเป็นวันๆอนาคตถ้าเราวางเงื่อนไข ให้ AI ค้นหาผู้สมัครตามที่เราต้องการได้ แล้วเราค่อยเป็นคนสัมภาษณ์เพื่อดูบุคลิกภาพ การสื่อสารหรือภาษากายของผู้สมัคร และสัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อรับทราบคุณค่าส่วนตัวของผู้สมัคร การดูแลพนักงานที่เริ่มงานใหม่(Onboarding) ที่อาจจะมีคำถามต่างๆมากมาย หรือต้องการการติดตามเรื่องการเรียนหลักสูตรที่จำเป็นต่างๆในการทำงานต่างๆAI Chatbot ก็สามารถช่วยตอบคำถาม และติดตามพนักงานใหม่ให้ดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ได้หรือในกรณีเรื่องของการสร้างความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement) AIสามารถวิเคราะห์ได้ว่าพนักงานกลุ่มไหนไม่ Engage และจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร ตัวเราในฐานะ HR ค่อยรับหน้าที่ในการไปพูดคุยแบบพบหน้าพบตาใช้Human Touch ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราเข้าไปทำงานในการเข้าใจคนและแก้ไขปัญหาให้ได้งานและได้ใจคน

 

สุดท้ายบทบาทของ HR ที่คนมักจะมองว่าเป็นงานธุรการ งานเอกสารหากเราเปลี่ยนบทบาทตัวเองโดยใช้เทคโนโลยีได้ เชื่อว่า HR จะเปลี่ยนบทบาทกลายเป็นที่ปรึกษาผู้มีทั้งความเชี่ยวชาญในงานมีความเข้าใจมนุษย์และสามารถสื่อสารถึงกันได้อย่างเข้าอกเข้าใจ การบริหารจัดการAI หรือเทคโนโลยีอื่นในลักษณะนี้ และพยายามจะดึงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ผมเชื่อว่ามีงานอะไรสนุกๆหลายอย่างรอเราอยู่ในอนาคตอันใกล้นี้โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเราจะถูกแย่งงานครับ

 

 

ที่มา

มนุษยศาสตร์ไม่มีวันตาย ในโลกยุคดิจิทัล - The Matter

How AI Is Primed To Disrupt HR And Recruiting -Forbes

Why HR is becoming a business consulting function -unleash.ai

How big a role should technology play in HR? -People Management

How AI is transforming the future of HR - EconomicTimes

 

Tag:
No items found.
Share this post:
ชินภัทร์ สุวรรณพุ่ม

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024