โดยรายงานวิจัยคาดคะเนว่า กว่า 30% ของแรงงานที่จะเข้ามาทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปนั้นจะมาจากพนักงานที่เป็นเด็กรุ่นใหม่หรือที่เรามักเรียกกันติดปากว่า Gen Z
ดังนั้นเพื่อเป็นการทำความเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เตรียมจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามผู้อยู่อาศัย(พนักงาน) ทาง Deloitte จึงได้เสนอแนวทางและมุมมองต่อเรื่องอนาคตของการทำงานเอาไว้ 3 จุดด้วยกัน
1.) Work หรือ “เนื้องาน” : Thomas Friedman เจ้าของรางวัล Pulitzer ได้เคยกล่าวว่า“สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตคือ เนื้องาน จะถูกตัดออกจากอาชีพจริงๆ และทั้งงานและอาชีพต่าง ๆ จะถูกตัดออกจากองค์กร โดยทั้งหมดจะเหลือเพียงแค่ platform ที่คอยเชื่อมโยงระหว่างกันเท่านั้น”
การทำความเข้าใจเรื่อง เนื้องาน หรือ work นั้นย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น เนื้องานบางงานนั้นกำลังถูกทดแทนด้วย“เครื่องจักรสมัยใหม่” เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นตอนปฏิวัติอุตสาหกรรม(รถทำงานแทนม้า เครื่องจักรทำงานแทนคน) และยุค internet (คอมพิวเตอร์ทำงานแทนคน)ดังนั้นมุมมองที่ HR ควรจะต้องเตรียมรับมือเอาไว้คือ การทำ jobscope หรือ การมองหาเนื้องานที่เหมาะสมจริง ๆ กับพนักงานรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้ามา โดยผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีอย่าง AI
2.) Workforce หรือ “คนทำงาน” : ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและระบบที่รวดเร็วคนทำงานที่เข้ามาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้ชำนาญการพิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเสมอไปแต่งานกำลังจะโอบรับพนักงานที่มีความเก่งรอบด้านและพร้อมจะพัฒนาและเรียนรู้ต่อยอดมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้นมุมมองที่ HR และองค์กรเคยมองต่อ“คนทำงาน” ควรจะต้องปรับเปลี่ยนไปตาม “เนื้องาน” ให้มากขึ้น คนที่จบเอกการละครอาจจะมีประสบการณ์ด้าน Marketing ที่ดีมาก คนที่จบเคมีอาจจะเป็น Software Developer มือเทพขององค์กร ก็เป็นได้
3.) Workplace หรือ “ที่ทำงาน” : หากเราตัดคำว่า“สถานที่” ออกจากคำว่า “ที่ทำงาน” นั่นหมายความว่าจุดใดก็ได้ในโลกใบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นอาคาร ตึกสูง หรือออฟฟิศเก๋ ๆก็สามารถเนรมิตขึ้นมาให้ “คนทำงาน” นั่งทำ “เนื้องาน” บน “ที่ทำงาน” ใด ๆ ก็ได้บนโลกใบนี้เลย เนื่องจาก ที่ทำงานนั้นไม่จำเป็นจะต้องขึ้นอยู่กับสถานที่แต่เป็นเพียงสิ่งที่เชื่อมโยงคนทำงานเข้าด้วยกัน ผ่านกระบวนการทำงานที่เหมาะสมและเครื่องมือในการทำงานที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
ในฐานะขององค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบจากมุมมองทั้งสามดังที่กล่าวมาข้างต้นการที่จะเตรียมการรับมือเพื่อสร้างความสำเร็จจากคนทำงาน เนื้องานและที่ทำงานได้นั้น จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายนอกและภายในโดยใช้ทั้งสามมุมมองประกอบขึ้นมานั่นเอง
จากรายงานวิจัยของ Deloitte และ Mercer นั้น ผลสำรวจออกมาพบว่า Gen Z เป็นวัยทำงานที่เน้น“ความสมดุล” หรือ balance of power มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสมดุลระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเริ่มหันมาสนใจการสร้าง balance of power โดยการเป็นเพียงสัญญาจ้างหรือรับงาน freelance / gigs (หรือที่เรามักเรียนกันว่า“งานนอก”) เสมอ เพื่อบริหารจัดการที่ทำงานด้วยตัวเองและสร้างสมดุลในชีวิตที่เหมาะสม
Gen Z เป็นวัยแรงงานที่ต้องการ personalization หรือสามารถปรับแต่งสิ่งต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับตัวเองได้มากขึ้นเนื่องด้วยค่านิยมของแรงงานวัยใหม่นี้คือ “ประสบการณ์ในการทำงาน” ที่เหมาะสมกับตัวเอง (employee experience) ซึ่งองค์ประกอบของการสร้างประสบการณ์นั้นมิได้มาเพียงแค่จากเนื้องานเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการดูแล การจ่ายค่าตอบแทน การยืดหยุ่นเวลาในการทำงานการปรับปรุงสวัสดิการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการที่ทันสมัยขึ้นการพัฒนาและฝึกอบรม ต่าง ๆล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่สร้างขึ้นมาให้เป็นประสบการณ์ในการทำงานของ GenZ
ตารางข้างต้นจากการสำรวจของ Gallup, 2022 พบว่าแรงงานยุคใหม่นั้นมีความกดดันต่อการทำงานที่สูงมากนั่นสะท้อนให้เห็นถึงการพยายามสร้าง balance ในการทำงานจนเกิดความตึงเครียดต่อความคาดหวังที่ต้องการจะได้รับที่สูงมากโดยเฉพาะค่านิยมในแถบประเทศเอเชียที่ Mercer ได้ทำรายงานพบว่าแรงงานยุคใหม่นั้นต้องการความใส่ใจในงานที่ลงมือทำลงไปสูงเป็นอันดับแรก
องค์กรควรรับมืออย่างไร?
การเตรียมความพร้อมสำหรับแรงงานยุคใหม่นั้นไม่ใช่การที่ต้องสร้างระบบใหม่ทั้งหมดในที่ทำงานเพราะองค์กรยังจำเป็นที่จะต้องดูแลคนที่หลากหลาย แตกต่างทั้งวัย และความเชื่อ/ค่านิยมในการทำงาน ดังนั้นจึงควรจะสร้าง model หรือรูปแบบที่ครอบคลุมคนในองค์กรของตัวเองทั้งหมดสร้างรูปแบบที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และให้ประสบการณ์ที่ดีต่อที่ทำงาน
Practice ต่าง ๆ ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมีหลากหลายเช่น การยกเลิกการลงเวลาทำงาน / เพิ่มความยืดหยุ่นในเวลาทำงาน/ การทำงานจากที่บ้าน / การทำงานจากที่ไหนก็ได้/ การสร้างสวัสดิการทางเลือกที่เหมาะสมกับวัยที่ต่างกัน หรือ Flexible Benefits
Deloitte ได้เสนอ model ที่น่าสนใจเอาไว้3 วิธี จึงขอนำมาสรุปดังนี้
1) Imagine: จินตนาการให้เห็นถึง Goals / Visions /Missions ในอนาคตขององค์กร เพื่อทำความเข้าใจ “ภาพ”ในอนาคตของแรงงานที่จะเข้ามาช่วยกันสร้างให้เกิดภาพนั้น
2) Compose: ประกอบร่างระหว่าง คน กับ งาน ให้สอดคล้องกันโดยมีเครื่องมือ และ AI เข้ามาเชื่อมระหว่างกัน
3) Activate: กระตุ้นให้เกิดภาพเดียวกัน (Alignment) ของทั้งคน องค์กร งาน และที่ทำงาน
อ้างอิง:
UnderstandingGeneration Z in the Workplace | Deloitte US
Riseof the relatable organization (mercer.com)
GenZ In The Workplace: How Should Companies Adapt? – Imagine | Johns HopkinsUniversity (jhu.edu)