>
HR กับการสร้าง Engagement ผ่านระบบ online ในช่วง Work from Home
April 16, 2021

HR กับการสร้าง Engagement ผ่านระบบ online ในช่วง Work from Home

สำหรับ HR นั้นต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายการทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้าง engagement หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เราเรียกกันติดปากว่า “เม้ามอย” เนื่องจากการทำงานจากที่บ้านนั้นเราจะได้คุยกับเพื่อนร่วมทีมก็ต่อเมื่อมีประชุมเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าระหว่างการประชุมนั้นก็ไม่สามารถที่จะพูดออกนอกเรื่องได้มากนัก (เราเรียกการเม้ามอยเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ว่า water-cooler chat: ให้นึกถึงเวลาเราเดินไปเติมน้ำ หรือชงกาแฟ แล้วเจอเพื่อนตรงนั้นพอดีเลยแวะคุยกัน) พอเราต้องทำงานผ่านระบบประชุมออนไลน์จึงทำให้กระบวนการพูดคุยตรงนี้ขาดหายไป

หลาย ๆ กิจกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจึงได้เข้ามาทดแทนการเม้ามอยดังกล่าวที่ขาดหายไป หากวันนี้ท่านเป็น HR ที่ต้องดูแลพนักงานที่ต้องทำงานจากที่บ้านเป็นหลัก หรือเป็นการทำงานแบบผสมผสาน คือมีทีมที่ปฏิบัติงานทั้งที่บ้าน และที่สำนักงาน ความท้าทายในการกระชับความสัมพันธ์อาจจะยากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานที่เข้างานใหม่ในช่วงนี้มักจะพบความยากลำบากในการเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นลักษณะการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ดังนั้นในยุคที่การทำงานมี social distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคมนั้น HR จึงจำเป็นที่จะต้องคัดเลือกเครื่องมือประกอบการสร้าง engagement ให้อย่างน้อยแม้อาจจะไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างที่ควร แต่ก็ประคับประคองไม่ให้ลดลงมากเกินไป มาดูกันว่า เราสามารถใช้อุปกรณ์ในยุคปัจจุบันสร้างหรือรักษาระดับของ engagement ในงานได้บ้าง

1. Game Online ที่ไม่ใช่แค่ระบบ Gamification

คำว่าเกมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงชวนให้พนักงานจัด eSport แข่งขันกันอย่างจริงจัง แต่เป็นการสร้าง water cooler chat ขึ้นจากที่บ้าน หรือที่สำนักงานพร้อม ๆ กัน ซึ่งการเล่นเกมออนไลน์นั้นใช้เวลาในการเล่นไม่เกินครั้งละ 5-10 นาทีเท่านั้นเอง วันนี้เราจะขอยกตัวอย่างเกมที่หลาย ๆ บริษัทในประเทศไทยใช้เล่นระหว่างพักเบรกประชุม หรือพักกลางวันเพื่อสร้างกลุ่มเม้ามอย เฮฮา ระหว่าง work from home กันอย่าง Among Us

Among Us เกมออนไลน์แบบเล่นพร้อมกันหลายคนจากบริษัทพัฒนาเกมชื่อ Innersloth ซึ่งมีทีมงานอยู่สามคน คือ Forest, Marcus และ Amy โดยตัวเกมจริง ๆ นั้นออกมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2018 แล้ว แต่เพิ่งจะกลับมาดังเป็นพลุแตกเมื่อมี streamer หลาย ๆ คนหยิบมันกลับมาเล่นใหม่ในปี 2020 ท่ามกลางภาวะที่ทุกคนอยู่แต่ในบ้านและหากิจกรรมเล่นยามว่างกับเพื่อน

หลักการเล่นเกมนั้นง่ายมาก โดยที่เกมนี้เราสามารถเล่นออนไลน์พร้อม ๆ กันได้ตั้งแต่ 4 – 10 คน โดยกติกาคือ ในบรรดาเพื่อนที่เล่นด้วยกันอยู่นั้น จะมี 1 หรือ 2 คน (แล้วแต่เรากำหนด) ที่เป็นตัวปลอม (imposter) แฝงเข้ามาในกลุ่มเราที่เป็นลูกเรือบนยานอวกาศ ฉากหลังของการเล่นจะเป็นนอกโลกเป็นหลัก ผู้เล่นที่เป็นคนปกติจะได้รับงาน (task) ที่แตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละคนจะต้องรีบไปปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ เมื่อปฏิบัติภารกิจสำเร็จเกมก็จะจบลงและคนที่เป็นลูกเรือทั้งหมดจะชนะ ส่วนคนที่เป็นตัวปลอม หรือคนร้ายนั้นจะต้องทำทุกทางไม่ให้ลูกเรือปฏิบัติภาระกิจสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งต่าง ๆ ทำให้ไฟดับ ระบบสื่อสารขัดข้อง ฯลฯ และหนึ่งในนั้นคือลงมือฆ่าลูกเรือให้ตาย เกมจะบังคับให้เราห้ามคุยกันระหว่างปฏิบัติภาระกิจ ใครที่โดนฆ่าก็ต้องเงียบ ๆ ไว้ จนกระทั่งมีคนมาเจอศพเราและสามารถกดปุ่มเรียกประชุมได้ (report) จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการอภิปรายว่าใครคือคนร้าย และทำการโหวต ซึ่งแน่นอนว่าถ้าโหวตถูกก็โชคดีไป แต่ถ้าโหวตผิด เกมก็จะต้องดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ ทีนี้ความสนุกของเกมคือ เพื่อน ๆ จะต้องบลั๊ฟ หรือโกหกหน้าตายกัน ซึ่งเราการันตีได้เลยว่ามันจะสนุกสนานและเฮฮาเสียงดังลั่นแน่นอน ทั้งนี้นอกเหนือจาก Among Us แล้ว ยังมีเกมออนไลน์ฟรี ๆ ที่สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนานแบบนี้อีกเช่น Spy Fall หรือ Werewolf เป็นต้น ซึ่งหากท่านสนใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในจาก Google เลย

2. การใช้ระบบห้อง chat แบบมีชีวิตชีวา

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาพนักงานในองค์กรเราหลายคนเริ่มปรับตัวเข้ากับการสื่อสารแบบ text มากกว่า voice ได้แล้ว (สั่งงานทางตัวอักษร เร็วกว่าการนัดคุยกัน) แต่อย่างไรก็ตามแม้การสั่งงานทางตัวอักษรจะเริ่มกลายเป็นความปกติของการทำงานไปแล้ว แต่พนักงานหลายคนก็ยังรู้สึกว่าการสั่งงานแบบนี้นั้นแห้งแล้ง ไร้อารมณ์ และขาดสีสันไม่เหมือนการนั่งคุยงานกันในออฟฟิศตามปกติ จะคุยเล่นก็คุยไม่ได้ จะแอบแซวเพื่อนก็ทำไม่ได้ แต่บางบริษัทในประเทศไทยก็มีทางออกสำหรับความอึดอัดเหล่านี้เช่นกันนั่นคือ “การตั้งห้องคุยเล่น” หลาย ๆ คนอาจคุ้นเคยกับ application สนทนาอย่าง Line แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นยังมีอีกหลากหลาย application ที่เหมาะกับการคุยงานมากกว่า เช่น Discord / Slack หรือ Microsoft Teams เป็นต้น เนื่องจาก application เหล่านี้มีระบบที่ช่วยให้เราสร้างความมีชีวิตชีวาในการคุยงานมากขึ้นได้ เช่น ระบบตั้งห้องย่อยแยกออกมาโดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้าง group chat ใหม่ให้วุ่นวาย เพราะเป็นการโยกคนจากห้องหลักมาห้องย่อยนั่นเอง หลาย ๆ บริษัทมีไอเดียที่น่าสนใจ เช่น

- เปิดห้องกลางเอาไว้ที่เป็นห้องที่ทุกคนต้องเปิดไมค์ตลอดเวลา เหมาะสำหรับอยากเข้ามาเม้ามอยหรือคุยเล่น

- เปิดห้องเฉพาะกิจ เช่น ห้องคุยละคร ห้องสปอยหนัง ห้องผลบอล หรือห้องคาราโอเกะ! (เอาไว้ร้องเพลงกัน)

- เปิดห้องหัวหน้าเอาไว้คุยเรื่องฉุกเฉิน โดยในนั้นจะมีหัวหน้าทีมอยู่เพียงคนเดียว ถ้าใครอยากคุยเป็นกรณีพิเศษ สามารถเข้ามาได้เลย ทำแบบนี้ก็เหมือนกับอยู่ออฟฟิศแล้วเดินเข้าห้องนายอย่างไงก็อย่างงั้นเลย

- เปิดห้องสั่งกับข้าว เอาไว้ถกเถียงเรื่องการสั่งข้าวกลางวันกินกัน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีไอเดียที่สามารถทำได้อีกหลากหลายเช่น การเขียนบอทเอาไว้สั่งงาน สั่งข้าว ทวงงาน ฯลฯ อีกเยอะแยะ เช่นตัวอย่างจากบริษัทนี้เป็นต้น https://twitter.com/scomma/status/1310871757994090497?s=20

3. สันทนาการร่วมกันแบบ Online

หลายบริษัทมีการเริ่มต้นใช้การสร้างกิจกรรมสันทนาการร่วมกันแบบออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนัดกินข้าวกลางวันด้วยกันผ่าน video call หรือการนั่งเล่นบอร์ดเกมด้วยกันช่วงพักเที่ยง (ให้อารมณ์เหมือนเรานั่งเล่นหมากรุกในห้องสมุด) บางคนก็ลุกขึ้นมาออกกำลังกายด้วยกันช่วงเลิกงาน หรือแม้กระทั่งมีการชวนกันดูหนังแบบ streaming พร้อม ๆ กันเพื่อเป็นการผ่อนคลาย โดยเฉพาะน้อง ๆ พนักงานที่เข้างานใหม่ในช่วงนี้นั้นจะมีความท้าทายมากขึ้น บางคนเลยจัดเป็น session รับน้องขึ้นมา มีกิจกรรมแนะนำตัวสนุก ๆ เช่นให้พี่ ๆ แต่ละคนเล่าเรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนเกี่ยวกับตัวเอง แล้วให้ทายว่าอันไหนจริง หรือหลอก เป็นต้น หรือบางคนก็ใช้การเปิด Google Maps Street View แนะนำบริษัทให้คนเข้างานใหม่รู้จักทุกตรอกซอกซอยแบบโลกเสมือนจริง เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า ตัวอย่างที่ยกมานั้นส่วนใหญ่ HR จะเป็นคนรอให้พนักงานคิดกันขึ้นมาเองก่อนเสมอ นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้ลงลึกไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ๆ ตามหลักการ empathize นั่นเอง ดังนั้น วันนี้หากพวกเราพร้อมแล้ว ก็ขอให้ทดลองก้าวเข้าสู่ยุคของ “Resilience” เพื่อนำ spirit ในการทำงานของพนักงานกลับมาผ่านกิจกรรมสร้างความบันเทิงเหล่านี้กันเถิด

อนึ่ง Streamer เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าจับตามองเนื่องจากปัจจุบันสามารถสร้างรายได้รายชั่วโมงได้ตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักล้านเลยทีเดียว ทั้งนี้ Streamer ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่เล่นเกมเก่ง หรือเป็นนักแข่งกีฬา eSport ระดับ Pro Player แต่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถเข้ามาถึง platform ที่สามารถหารายได้จากจุดนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Twitch, Youtube หรือ Facebook – ทั้งนี้หากท่านผู้อ่านสนใจเรื่อง Streamer สามารถกดไลค์ กดแชร์กันได้นะครับ หากมีคนชอบเยอะ ทีมงานจะทำบทความเรื่องนี้เพิ่มเติมให้สมาชิกได้อ่านกันต่อเนื่อง

Tag:
No items found.
Share this post:
ภคภัค สังขะสุนทร

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024