Resilience คือ New Normal Mindset
จากการศึกษาผลกระทบของสถาบันไทยพัฒน์ พบว่า เมื่อของค์กรเจอกับเหตุการณ์ที่มีความไม่แน่นอนในลักษณะนี้ องค์กรเริ่มที่จะสร้างองค์กรที่เรียกว่าองค์กรพร้อมมัน (Resilient Enterprise) เพื่อให้พร้อมที่จะรองรับกับการใช้ชีวิตและการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปจากรูปแบบเดิม องค์กรที่กำลังทำเรื่องนี้ มุ่งเน้นความสำคัญกับการดูแลพนักงานมากที่สุด ถึงร้อยละ 90 รองลงมาคือลูกค้า และสิ่งแวดล้อม คำว่า "Resilience" หากแปลเป็นไทยจะแปลว่า “ความยืดหยุ่น” แต่ความหมายของคำนี้จริงๆ แล้วจะหมายความว่า การกลับคืนสู่รูปร่างหรือตำแหน่งเดิม เมื่อเผชิญกับแรงกดดันต่างๆ ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ธุรกิจที่อยู่ในกลุ่ม K หัวปัก การที่จะกลับมาดีเช่นเดิม หรือดีกว่าเดิม มีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาได้อย่างรวดเร็ว หลายกิจการอาจจะล้มตายไปก่อนที่จะฟื้น แม้จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยว แต่ก็มีบางกิจการหรือธุรกิจที่ปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่ฝันตัวเองมาทำการขายแบบ Delivery เนื่องจากถูกคำสั่งห้ามการนั่งรับประทานในร้าน หรือการผลิตอาหารแบบ Mass Production เพื่อวางขายในร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาทั่วประเทศ
ธุรกิจโรงแรมบางแห่งที่พยายามใช้จุดแข็งด้านการให้บริการและใช้ทรัพยากรที่ตนเองมี มาใช้ในการแปลงสภาพโรงแรมเป็น Hospitel หรือที่พักกักตัวผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ หรือมีอาการป่วยที่ไม่รุนแรง และโรงแรมยังสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการคิดต้นทุนและการให้บริการที่ตอบสนอง Trend ของการ Staycation ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้ในช่วงนี้และโรงแรมยังสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการคิดต้นทุนและการให้บริการที่ตอบสนอง Trend ของการ Staycation ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้ในช่วงนี้ ทำให้พอที่จะอยู่รอดได้และไม่ส่งผลกับพนักงานมากนัก
Upskill Reskill ทางรอดขององค์กร "K" หัวปัก
องค์กรที่ปรับตัวได้ ไม่ใช่เรื่องของโชคช่วย แต่เกิดจากกล้าตัดสินใจในการออกแบบโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ และทุกฝ่ายร่วมกันทำให้เริ่มได้เร็ว ซึ่งหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลง คือเรื่องของคน แม้ว่าทักษะส่วนใหญ่อาจจะเป็นทักษะเดิมที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ แต่ก็หนีไม่พ้นในเรื่องของการเร่งพัฒนาหรือฝึกฝนให้บุคลากรมีความพร้อม ในการต่อยอดในทักษะเดิม หรือที่เราเรียกว่า Upskit และการเปลี่ยนรูปแบบของทักษะไปเป็นทักษะใหม่ (Reskit) ที่ยังไม่เคยมีการเรียนรู้มาก่อน จากการศึกษาของ Wold Economic Forum พบว่าร้อยละ 50 ของพนักงานจะต้องมีการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskit) ภายในปี 2568 ซึ่งสถานการณ์ของโรคระบาดมีส่วนในการเร่งให้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ การ Upskill Reskil เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในทุกองค์กรเป็นปกติอยู่แล้ว การที่พนักงานได้รับบทบาทหรือหน้าที่งานใหม่ การดูแลผลิตภัณฑ์ใหม่ การเปลี่ยนแปลงจากนโยบายของบริษัทหรือภาครัฐ เช่น Data Privacy, Cyber Security รวมถึงการพัฒนาผลงานในหน้าที่งานเดิม ให้ตรงกับความคาดหวังขององค์กรมากขึ้น ก็ล้วนเป็นการ Upskill Reskill ทั้งสิ้น
กรณีศึกษา Upskill Reskill องค์กรไทย องค์กรโลก
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นผู้เขียนขอยกตัวอย่างองค์กรในประเทศไทยและองค์กรต่างประเทศ โดยเริ่มจากธนาคารกสิกรไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่งทุกคนคงทราบดีว่าธุรกิจธนาคารหรือการเงินเป็นธุรกิจแรก ๆ ที่ถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยี แต่ก็สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ด้วย เช่นกัน
เนื่องจากงานโดยส่วนใหญ่เป็นงานที่สามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาทวงานแทนได้ รวมถึงช่องทางการเข้าถึงลูกค้าที่ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ Face to face เหมือนที่เคยทำมา ทำให้ธนาคารกสิกรไทยจะต้องมีการเตรียมความพร้อม พัฒนาทักษะของพนักงานให้สามารถไปทำงานในหน้างานใหม่และมีการลดจำนวนสาขามากกว่า 80 สาขา ทำให้พนักงานกว่า 2 หมื่นคน ต้องมีการขยับขยายเปลี่ยนหน้าที่งานกันไป
ด้วยแนวคิดการ Upskill และ Reskilt ที่กสิกรไทย คุณขันม์ทวิน คู่เมืองตระกูล First Vice President Strategic People Solutions Head ได้แบ่งปันขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 เริ่มต้นด้วยการหา "Why" ให้ชัดเจน ว่าธนาคารจะทำธุรกิจอะไร เป้าหมายเป็นอย่างไร ต้องการเพิ่ม Productivity ด้วยจำนวนคนเท่าเดิม แต่ผลงานมีคุณภาพมากขึ้น สำหรับงานที่สามารถใช้เทคโนโลยีทำงานแทนได้ให้เปลี่ยนหน้าที่งานไปทำอย่างอื่น เช่น การขายผลิตภัณฑ์ช่องทางใหม่ๆ แก่ลูกค้า
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อ Why หรือ เป้าหมาย ชัดแล้ว ขั้นต่อไปคือการเริ่ม Upskill - Reskill คนในองค์กร โดยการวิเคราะห์ตำแหน่งงาน ลักษณะงานทั้งหมดในองค์กร เพื่อดูว่างานที่จุดไหนในองค์กรเข้าเกณฑ์ที่จะต้องมีการพัฒนาบ้างแล้วจึงเริ่มเข้าสู่กระบวนการพัฒนาและการวัดผลในชั้นต่อไป
ขั้นตอนที่ 3 กสิกรไทย แบ่งกลุ่มพนักงานตามทักษะความสามารถในเรื่องของเทคโนโลยีดิจิตอลตามลำดับชั้นของความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่กลุ่มคนที่ใช้เทคโนโลยีปัจจุบันได้ดี ไปจนถึงกลุ่มคนที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาได้เอง หลังจากนั้น จึงได้จัดตั้ง Digital Academy ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคน โดยมีตัวชี้วัดในการวัดผลการพัฒนาพนักงานตั้งแต่การมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในชีวิตประจำวันได้ จนกระทั่งสามารถถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับผู้อื่นๆ
กสิกรไทยได้ให้แนวคิดในการ Upskill และ Reska ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพแก่ผู้เรียนที่มีความหลากหลาย
ให้มีความสนใจในเนื้อหาหลักสูตร ด้วยวิธีการที่แตกต่าง ผ่านช่องทาง Social Network, Micro Learning, Chatbot และการเรียนรู้ในรูปแบบอื่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ในต่างประเทศจากองค์กรชั้นนำ ดังนี้
Beiersdorf บริษัทที่เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณอย่าง Nivea และ Eucerin ต้องการที่จะปลุกพลังให้แก่ธุรกิจของตัวเองใหม่อีกครั้งด้วยความมุ่งหวังที่จะให้ช่องทางเทคโนโลยีดิจิตอลช่วยเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นได้มีการกำหนดบทบาทพิเศษในองค์กรโดยใช้ชื่อว่า “Digital Ninjas" เป็นบทบาทที่มีลักษณะเหมือนกับการสร้าง Change Agent ในองค์กร ด้วยการให้ Digital Ninja ยกแบบโอเดียที่เกี่ยวกับนวัตกรรมดิจิตอล ผ่านแคมเปญ "Europe go digital" โดยผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้จะมีสิทธิเข้าเรียนหลักสูตรแบบ Bited-Size Leaming และได้รับโอกาสเข้าถึงวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น white papers, podcasts, webinars, video links, slides และงานสัมมนากิจกรรม จากผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกองค์กร PricewaterhouseCoopers (PWC) หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีสี่แห่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก และที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการองค์กร มีแนวทางการ Upskilt Reskill พนักงานด้วยการท้า Application ที่ชื่อว่า "Digital Fitness” ซึ่งเป็นระบบที่สามารถออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ของพนักงาน (Learning Path)ด้านดิจิตอลให้กับพนักงานได้แบบรายบุคคลตามความสนใจ โดยเนื้อหาใน Platfomi นอกจากจะให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิตอลแล้วยังสอดแทรกเรื่องความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิตอลต่อยอดและสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังมี Application ที่ชื่อว่า "Digital Lab" เป็นรูปแบบ Platform ที่ใช้การจูงใจผู้ใช้ด้วยวิธีการแบบ Gamification เช่น การเก็บ Badge สะสมแต้มแลกของรางวัล การทำ Leader Board เพื่อชื่นชมคนที่เข้ามาใช้ Platom อยู่เสมอ ซึ่งวัตถุประสงค์ของ Digital Lab สามารถส่งเสริมวัฒนธรรมในองค์กรให้คนแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากมุมมองความคิดของผู้อื่น และยังสามารถต่อยอดงานของตัวเองได้อีกด้วย
แม้การ Upskit Reskill ในบริบทของการทำงานรูปแบบใหม่ที่กำลังจะกลายเป็น New Normal ไม่ว่าจะเป็นการท้างานแบบ Hybrid Working การบริหารการทำงานระยะสั้นหรือการจ้างงานแบบชั่วคราวหรือ Gig Economy จะไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำให้สำเร็จ ถ้าคุณอยู่ในองค์กรที่ทำธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ หรือธนาคาร ที่เป็นธุรกิจแรกๆที่ถูก Disrupt จากเทคโนโลยีดิจิตอล คุณอาจพอที่จะคุ้นเคยกับการ Upskit หรือ Reskill มาบ้าง แต่สำหรับองค์กรที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดน่าจะมีความท้าทายที่มากกว่า ด้วยข้อจำกัดด้านการควบคุมโรค การทำงานที่ต้องรวดเร็ว พร้อมไปกับการรักษาธุรกิจให้อยู่รอดด้วย การ Upskill Reskit สำหรับธุรกิจในกลุ่มนี้ ถือเป็นการซื้อนาคตขององค์กรได้อย่างแท้จริง ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่เป็น LAD Practitioner ในองค์กรจะต้องก้าวมาอยู่แถวหน้าร่วมกับฝ่ายธุรกิจในการพัฒนาคนในองค์กรเพื่อความอยู่รอด มีคำกล่าวว่าองค์กรจะไม่สามารถกลับมาอยู่ที่จุดเดิมได้ ถ้าไม่มีบุคคลากรสนับสนุน การสร้างกล้ามเนื้อของการ Resait พนักงาน ณ ตอนนี้ เป็นก้าวแรกในการทำให้มั่นใจได้ว่าองค์กร จะฟื้นคืนกลับมาได้ พร้อมพัฒนาไปสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จและเติบโตไปได้ต่อในที่สุด
อ้างอิง
การฟื้นตัวแมนรูปตัว K ของเศรษฐกิจไทยในวิกฤตยังมีโอกาส (www.bot.or.th)
ไทยพัฒน์ Resence” ดีก็สำคัญนำทางธุรกิจน้ำไทวิล-15 https://www.thansettak.com
Rasulience อีกแนวคิดที่มาแรงในยุคโควิช www.bangkoktismews.com
These are the top 10 job skits of tunomowand how long it takes to learn them (www.weforum.org)
- ทรานส์พ่อโมกสิกรไทย www.bangkokbiznews.com
Future โครงการพัฒนาคนมาแย่งของ สิงคโปร์ (www.bangkoktxnews.com)
The economic case for reskiting in the UK. Hizw employers can thrive by bossting workers skills
Beyond hiting: How companies are mikilling to address talent gaps (www.mckinsey.com
4. Successful Examples of Resting and Upsking Programs (egrifold all
Upsling And Reskiing Esseritian How To Address The Emerging Challenges Of The Future Of Wuck
beleamingindustry.com