>
To Build Cross-Border Project Team การสร้างผลสำเร็จในการสร้างทีมโครงการข้ามประเทศ
October 25, 2020

To Build Cross-Border Project Team การสร้างผลสำเร็จในการสร้างทีมโครงการข้ามประเทศ

การที่บริษัทต่างๆในไทยได้ก้าวไปเป็นบริษัทที่มีการลงทุนข้ามชาติ มีการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ในแง่ของการทำงานจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการสร้างโครงการขึ้นมาเพื่อรองรับกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆไม่ว่าจะเป็นการขยายการลงทุน การปรับปรุงระบบการบริหารจัดการ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายใน การปรับปรุงกระบวนการ หรือการปรับใช้ระบบสารสนเทศ เป็นต้น แน่นอนว่า การเกิดขึ้นของโครงการเหล่านี้ จะต้องมีทีมทำงานที่ไม่ได้มีคนมาจากประเทศเดียว อย่างน้อยจะต้องมีคนจาก 2 ประเทศขึ้นไปมาอยู่ร่วมกันในทีมดังนั้น ผู้บริหารจึงจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับการสร้างทีมสำหรับโครงการข้ามชาติอย่างมาก เพราะหากไม่ระมัดระวังหรือให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นแล้ว โอกาสที่จะเกิดความล้มเหลวหรือไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ จะมีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะแม้แต่การสร้างทีมโครงการจากคนทำงานที่อยู่ในเมืองไทยเพียงอย่างเดียว ก็ยังไม่ง่ายที่จะเป็นได้อย่างราบรื่น บทความชิ้นนี้จึงใคร่ขอเสนอแนวทางที่จะช่วยให้ผู้บริหารได้เห็นภาพเบื้องต้นว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่พึงต้องระวังและให้ความสำคัญ

รูปแบบของการสร้างทีมโครงการข้ามประเทศ

การสร้างทีมโครงการข้ามประเทศจะมีปัจจัยที่สำคัญใน 2 ปัจจัยประกอบด้วย บริบทของคนที่ร่วมโครงการ กับ สถานที่อยู่ของคนในโครงการ โดยบริบทของคนที่เข้าร่วมโครงการในที่นี้ จะมองไปที่ระดับของความหลากหลายหรือความคล้ายคลึงกันของคนที่เข้าร่วมในโครงการ เช่น การใช้ภาษา วัฒนธรรมวิถีชีวิต แนวทางการทำงาน องค์ความรู้ที่มี ส่วนสถานที่อยู่ของคนในโครงการก็จะมองไปที่ระดับของความแตกต่างของสถานที่ว่ามีมากน้อยเพียงใด สามารถที่จะเดินไปหากัน ไปประชุม เดินไปรับประทานอาหารกลางวันกันได้หรือไม่ หรือต่างก็อยู่กันคนละทิศละทาง ซึ่งจาก 2 ปัจจัยดังกล่าว เราจะสามารถมองถึงรูปแบบการสรางทีมโครงการข้ามประเทศได้ดังนี้

1. ทีมที่มีบริบทของคนในโครงการร่วมกัน และมีสถานที่อยู่ของคนในโครงการที่เดียว รูปแบบนี้จะมีคนทำงานอยู่ในที่เดียวกัน ใช้ภาษากายหรือภาษาพูดไปในทำนองเดียวกัน แม้ว่าจะมาจากต่างชาติก็ตาม เป็นรูปแบบทีมที่จะง่ายต่อการประสานงาน การติดตามความคืบหน้าของงาน และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างทางของการดำเนินโครงการ  

2. ทีมที่มีบริบทของคนในโครงการร่วมกัน แต่มีสถานที่อยู่ของคนในโครงการอยู่กระจัดกระจาย เป็นลักษณะของการที่คนไปจากบริษัทแม่หรือจากต้นทางเดียวกัน แต่ไปอยู่ในสถานที่แตกต่างกัน มาร่วมกันทำโครงการตามที่บริษัทมอบหมาย แม้ว่าจะอยู่กันคนละแหล่งแห่งที่ แต่ก็จะยังมีความเกี่ยวข้องกันด้วยการที่มีบริบทคล้ายกัน ทำให้การสื่อสาร การพูดคุย การแก้ปัญหาหรือตัดสินใจ จะมีอุปสรรคไม่มากนัก อย่างไรก็ดี การที่อยู่กันต่างสถานที่ ก็จะต้องมีการเตรียมระบบและโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่ฉับไว และสะดวก เพื่อให้ยังคงรักษาความเป็นบริบทเดียวกันเอาไว้อันจะทำให้การทำงานโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ทีมที่มีบริบทของคนในโครงการหลากหลาย แต่มีสถานที่อยู่ของคนในโครงการที่เดียว กรณีนี้จะเป็นการรวมคนจากหลายแหล่ง หลายประเทศเข้ามาอยู่ร่วมกันในที่เดียวกันเพื่อทำโครงการตามเป้าหมายที่องค์กรจะได้มอบหมาย การรวมตัวกันในรูปแบบนี้ แม้จะดูเหมือนว่าการสื่อสารถึงกันจะทำได้โดยง่ายเพราะอยู่ใกล้ชิดกัน แต่ความจริงแล้วเรื่องที่คิดว่าง่ายก็อาจจะกลายเป็นยากถ้าหากไม่มีกระบวนการบริหารจัดการความหลากหลายให้ดีพอเพราะคนจะมาอยู่กันด้วยความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น มีโอกาสกระทบกระทั่งได้มากขึ้น จุดสำคัญที่สุดที่องค์กรพึงจะทำก็คือ ต้องมีการเตรียมการให้คนที่มาจากแต่ละประเทศได้รู้จักและเข้าใจธรรมชาติของคนอื่นๆที่มาจากประเทศที่หลากหลายต่างกัน เข้าใจวัฒนธรรมพื้นฐาน สไตล์การทำงาน เพื่อจะได้ลดปัญหาความไม่เข้าใจกันให้เหลือน้อยที่สุด  

4.  ทีมที่มีบริบทของคนในโครงการหลากหลาย และมีสถานที่อยู่ของคนในโครงการอยู่กระจัดกระจาย เป็นโครงการที่จะมีความยากในการบริหารและการทำงานร่วมกัน เพราะการจะสื่อสารหรือประสานงานจะเป็นไปได้ยากทั้งในแง่ของวัฒนธรรมการทำงาน วืธีการทำงาน และทั้งในแง่ของความห่างโดยระยะทาง ดังนั้น องค์กรจึงต้องเตรียมการให้ดีทั้งการวางระบบการสื่อสารที่ดีเพื่อให้รองรับการพูดคุยถึงกันได้แม้จะมีความต่างในเรื่องเวลา สถานที่ก็ตาม รวมทั้งองค์กรควรมีการได้พบปะเห็นหน้ากันอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกัน เป็นการให้ได้ “ปรับเคมี” เข้าหากัน ก่อนที่จะแยกย้ายกลับไปประจำที่ของตนเพื่อทำโครงการต่อไป

หัวใจของการทำงานของทีมโครงการข้ามประเทศ

หัวใจสำคัญของทีมโครงการข้ามประเทศจะประกอบด้วย

1. การสื่อสาร

การสื่อสารดูจะเป็นประเด็นหลักเวลาที่มีการพูดถึงการบริหาร การจัดการในรูปแบบต่างๆว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จหรือล้มเหลวได้ การสื่อสารในโครงการข้ามประเทศจะต้องให้ความสำคัญทั้งวิธีการและเครื่องมือในการสื่อสาร ในแง่ของวิธีการ ผู้เขียนอยากแนะนำจากประสบการณ์ของตนเองว่า ไม่ว่าจะมาจากกี่ประเทศ ควรจะต้องมีการเริ่มต้นครั้งแรกที่เรียกกันติดปากว่า “Kick-Off Meeting” ควรจะเป็นการพบกันต่อหน้า ได้มีการสื่อสารกันทั้งภาษาพูดและภาษากาย มีการพูดคุยเพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน การสื่อสาร จากนั้น ควรมีการเตรียมเครื่องมือการสื่อสารให้พร้อมโดยเฉพาะการสร้างห้องประชุมที่เป็น VDO Conference หรืออย่างน้อย จะต้องมีระบบ Tele-Conference ที่สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายได้จากหลายๆประเทศ อย่างไรก็ดี ผู้เขียนมีข้อแนะนำว่า การสื่อสารกันในรายละเอียด อยากให้เป็นการใช้อีเมล์เพื่อให้แต่ละฝ่ายได้มีเวลาไตร่ตรอง ฉุกคิดให้รอบคอบ แล้วใช้ tele-conference เป็นตัวเสริม เพื่ออธิบายหรือทำความเข้าใจในจุดที่ไม่เข้าใจ นอกจากนี้ จะต้องมีการทำความเข้าใจกับทุกคนในทีมว่า แต่ละคนที่มาจากต่างวัฒนธรรมนั้น มีวิธีการทำงาน มีวัฒนธรรมการทำงานที่เป็นแบบไหน ต่างกันอย่างไร  

2. การบริหารความขัดแย้ง

การขัดแย้งโดยตัวมันเองไม่ใช่เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ตราบใดที่การขัดแย้งยังอยู่ในเรื่องของเนื้องาน เพราะการทำงานย่อมต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นธรรมดา แต่สิ่งที่เป็นอันตรายสำหรับการเกิดความขัดแย้งในงานก็คือ การหลีกเลี่ยงไม่ให้มีความขัดแย้งในการทำงาน ซึ่งจะยิ่งทำให้ความขัดแย้งนั้นกลายเป็นความขัดแย้งส่วนตัวแล้วกลับมากระทบเรื่องงานได้ โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นกลุ่มทำงานที่มีคนมาจากวัฒนธรรมที่ประนีประนอมกับวัฒนธรรมที่เน้นการแสดงความคิดเห็น จะยิ่งขยายคงามขัดแย้งบานปลายได้ ดังนั้น ผู้บริหารโครงการข้ามประเทศก็จะต้องมีการกำหนดแนวทางเป็นเหมือนหลักการพื้นฐานเอาไว้ว่า หากเกิดความขัดแย้งหรือไม่เข้าใจกัน จะต้องใช้วิธีการใดในการทำความเข้าใจเช่น การเข้าใช้การแนวทางการเปิดใจกัน การกำหนดคนกลางให้ทั้งสองฝ่ายได้เข้าไปบอกความไม่เข้าใจหรือความขักแย้ง รวมทั้งควรกำหนดแนวทางด้วยเช่นกันว่า หากเกิดความขัดแย้งแล้ว อะไรที่ไม่พึงจะทำ

3. ภาวะผู้นำ

ภาวะผู้นำของโครงการข้ามประเทศจะมีผลอย่างมากต่อผผลสำเร็จของโครงการ ภาวะผู้นำในโครงการข้ามชาติจะต้องมีคุณลักษณะที่โดดเด่นในเรื่องดังต่อไปนี้

1) สามารถสร้างให้คนในทีมงานทั้งหมดมองเห็น เข้าใจ และทิศทางที่ต้องการจะไป

2) มีความสามารถในการดึงให้ทุกคนในทีมได้กำหนดกลยุทธ์ และแตกแผนงานจากกลยุทธ์เพื่อนำปสู่การปฏิบัติได้จริงตามสภาพแวดล้อมของแต่และวัฒนธรรม

3) สามารถสร้างทีม สร้างและประคองความสัมพันธ์อันดีในทีมข้ามประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งการจะทำอย่างนี้ได้ก็ต้องอาศัยการเข้าใจความหลากหลายและความแตกต่างทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง

4) สามารถดึงให้ทีมแต่ละคนไม่จมอยู่กับเนื้องานที่จำเพาะอยู่ภายในประเทศประเทษศของตน แต่จะต้องดึงให้เขาเห็นภาพรวมของงานในโครงการข้ามประเทศที่เป็นภาพใหญ่อยู่เสมอ

5) ไวต่อการเข้าไปรับรู้และร่วมแก้ไขปัญหาของคนในทีมงานตั้งแต่ต้น ซึ่งจะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที  

4. การประเมินและการให้รางวัลทีมงาน

การที่พนักงานถูกส่งไปทำงานในโครงการข้ามชาติ มีความเสี่ยงเช่นกันที่จะถูกประเมินผลการปฏิบัติงานจากต้นสังกัดให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าคนอื่นแม้ว่าจะทำงานในโครงการได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จะต้องมีการวางกติกาเบื้องต้นร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจน เช่น อาจจะมีการกำหนดว่า ให้คนที่อยู่ในโครงการมีการประเมินผลเฉพาะกับคนที่อยู่ในโครงการด้วยกัน โดยให้ส่งผลนั้นกลับที่ต้นสังกัด ทั้งนี้ ไม่ให้ผลการประเมินดังกล่าวไปกระทบกับการประเมินของคนอื่นๆในหน่วยงานเดิม เป็นต้น

5. การส่งเสริมการเรียนรู้ของคนในทีม

สิ่งที่มักถูกมองข้ามไปเมื่อโครงการสำเร็จเสร็จสิ้นลง ก็คือ มักจะไม่มีการได้นำการเรียนรู้ ทั้งความสำเร็จและความผิดพลาดมาสรุปเป็นบทเรียน แล้วแบ่งปันกัน ทำให้เมื่อมีโครงการทำงานข้ามประเทศเกิดขึ้นอีก ก็จะทำให้เสียเวลาในการสร้างทีม หรือแก้ปัญหาบางอย่างที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกหากได้มีการสรุปบทเรียนเอาไว้

บทสรุปส่งท้ายของการสร้างผลสำเร็จในการสร้างทีมโครงการข้ามประเทศ ผู้บริหารหรือผู้นำในโครงการข้ามประเทศจะต้องมีความเข้าใจก่อนว่า ปัจจัยที่ประกอบเป็นรูปแบบของทีมโครงสร้างข้ามประเทศนั้นเป็นอย่างไรเพื่อให้ได้เห็นภาพว่าโครงการของตนนั้นอยู่ในประเภทใดเพื่อให้ได้เห็นข้อจำกัดหรือจุดแข็งของทีของตน จากนั้นเมื่อจะต้องคำนึงถึงหัวใจสำคัญของทีมโครงการข้ามประเทศว่าอย่างน้อยจะต้องให้มี การสื่อสารที่พร้อมดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น การวางแนวทางการบริหารความขัดแย้งไว้ล่วงหน้า การคัดเลือกตัวหลักที่มีภาวะผู้นำเหมาะกับการดูแลโครงการข้ามประเทศ มีการวางแผนและตกลงกับผู้เกี่ยวข้องล่วงหน้าถึงการให้รางวัลผลตอบแทนที่จะไม่บั่นทอนคนที่เข้าร่วมในโครงการ และจะต้องเตรียมการในการให้เกิดการเรียนรู้เมื่อโครงการเสร็จสิ้นลง หากสามารถทำอย่างเช่นข้างต้นได้แล้ว อย่างน้อยก็ได้ลดความเสี่ยงที่จะทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง

ดัดแปลงจากแนวทางในหนังสือ “The Global Challenge: International Human Resource Management” ของ Paul Evans.

Tag:
No items found.
Share this post:
ดิลก ถือกล้า

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024