>
สู่การเปลี่ยนแปลงตนเอง: เปลี่ยนตัวเอง ยกระดับตัวตน และสังคมสู่อนาคต
October 20, 2020

สู่การเปลี่ยนแปลงตนเอง: เปลี่ยนตัวเอง ยกระดับตัวตน และสังคมสู่อนาคต

3 อุปนิสัยที่จะยกระดับจากสภาวะการเป็นอิสระ ไปสู่สภาวะที่สูงขึ้นอีกขั้น นั่นคือสภาวะการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน จากนั้นเราจะพูดกันถึงอุปนิสัยสุดท้ายของ The 7 Habits อันเป็นอุปนิสัยที่จะเสริมสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน

นิสัย 3 อย่างสู่การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

เมื่อเราสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องคอยมองหาผู้ให้การอุปการะ เลี้ยงดู และปกป้องเราแล้ว ความสำเร็จในชีวิตจะเกิดขึ้นก็เมื่อเขาได้สัมพันธ์กับผู้อื่น ในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ มนุษย์ต้องอาศัยอุปนิสัยที่สำคัญ 3 อุปนิสัย

ในการที่เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นนั้น ลำดับแรกเราจำเป็นต้องมีวิธีคิดแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน (Think Win-Win) ซึ่งเป็นความคิดที่เชื่อว่าในการมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นนั้นไม่จำเป็นจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ แต่ในทุกความสัมพันธ์ที่มีคู่สัมพันธ์ทุกฝ่ายต่างก็ได้รับประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น วิธีคิดแบบนี้มีฐานความคิดว่าเรามีทรัพยากรให้แบ่งปันกันและกันได้อย่างพอเพียงโดยไม่ต้องเบียดบังใคร การแก้ปัญหาและสร้างความสัมพันธ์บนพื้นฐานความคิดแบบได้ประโยชน์ร่วมกันนี้จะช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีระหว่างคู่สัมพันธ์ และสร้างให้เกิดความผูกพันต่อข้อตกลงหรือความสัมพันธ์

ลองจินตนาการว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรหากคุณต้องทำงานกับคนที่ไม่แม้แต่ที่จะพยายามเข้าใจปัญหาหรือสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญ ทั้งที่คุณก็พูดสิ่งนั้นออกไปอย่างตรงไปตรงมา และชัดเจนที่สุดแล้วก็ตาม แล้วคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อคนคนนั้นพยายามให้คุณเข้าใจปัญหาหรือสถานการณ์ของเขาบ้าง... หรือคิดถึงหัวหน้างานคนหนึ่งของคุณ ที่พยายามสอนสั่งให้คุณใช้วิธีที่เขาแนะนำในการแก้ปัญหา แต่หัวหน้าของคุณก็ไม่เคยรู้เลยว่าปัญหาจริงๆ ที่คุณกำลังเผขิญอยู่มันคืออะไร... เชื่อได้เลยว่าเราส่วนใหญ่คงอยากหลีกเลี่ยงหัวหน้าแบบนี้ หรือเพื่อนร่วมงานแบบนี้

เราส่วนใหญ่มักคิดถึงทางแก้ปัญหาของผู้อื่นโดยใช้กรอบประสบการณ์และตัวตนของตัวเราเองเป็นที่ตั้ง ดังนั้นต่อให้เราเก่งสักแค่ไหน เราจะพบว่าหลายครั้งคำแนะนำของเราก็ไม่ได้เกิดประโยชน์กับตัวผู้รับคำแนะนำนั้น และไม่ได้ต่อยอดให้เกิดความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จยั่งยืนต่อมา

นี่นำมาสู่อุปนิสัยที่ 5 ที่เรากำลังจะพูดถึง นั่นคือการเปิดใจรับฟังและเข้าใจผู้อื่นก่อนที่จะให้ผู้อื่นพยายามเข้าใจเรา (Seek First to Understand, Then to Be Understood) ซึ่งหมายถึง เราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นนักฟังที่ดี (ไม่ใช่เพียงแค่ได้ยินเสียงของคนอื่น) การเป็นนักฟังที่ดีในที่นี้คือการฟังด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง และพร้อมที่จะเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพยายามถ่ายทอดสื่อสารออกมา การทำเช่นนี้จะทำให้คู่สัมพันธ์ของเรารู้สึกได้ว่าเรามีความสนใจเขาอย่างจริงใจ เราเองก็จะได้รับทราบถึงความรู้สึกและความคิดที่แท้จริงของคู่สัมพันธ์ และจะทำให้คุณสามารถให้คำแนะนำและมีแนวทางในการสร้างสัมพันธ์ที่เหมาะสมในที่สุด

ความสัมพันธ์ที่เรามีจะสร้างคุณค่าเป็นที่ประจักษ์รับรู้ในสังคม และนำมาซึ่งความสำเร็จของบุคคลในฐานะการเป็นบุคคลที่สร้างสรรค์คุณค่าให้กับสังคมได้ ก็ต่อเมื่อเรามีความเชื่อมั่นว่าการร่วมมือเป็นการรวมพลังทรัพยากรที่สร้างสรรค์สังคมให้ก้าวไปสู่สังคมที่วัฒนาก้าวหน้ามากขึ้น หรือ Synergize ผลลัพธ์ของความร่วมมือกันจะให้ผลทบเท่าทวีคูณต่อสังคม ซึ่งเราจะสามารถรวบรวมพลังจากความสัมพันธ์ได้ ก็ด้วยการอาศัยการคิดแบบได้ประโยชน์ร่วมกัน และการเปิดใจยอมรับเป็นพื้นฐานนั่นเอง

สร้างวงจรของการพัฒนา และความสำเร็จที่ยั่งยืน

อุปนิสัยทั้ง 6 ที่ได้กล่าวไปแล้วไม่อาจทำให้บุคคลประสบความสำเร็จได้อย่างถาวร เราต้องอาศัยอุปนิสัยสุดท้าย นั้นคือ การใฝ่เรียนรู้อยู่เสมอ (Sharpen the Saw) ซึ่งมุ่งหวังที่จะกระตุ้นเตือนให้เราต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

ในการพัฒนาตนเองนั้น อาจแบ่งได้เป็น 4 มิติ คือ

1. การพัฒนาทางกายภาพ (Physical Dimension) ซึ่งเป็นการดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกายให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์

2. การพัฒนาทางด้านจิตใจ (Spiritual Dimension) ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการทบทวนตัวเองถึงค่านิยม และเป้าหมายในชีวิตอยู่อย่างสม่ำเสมอ

3. การพัฒนาทางด้านสมอง (Mental Dimension) เป็นการพัฒนา เรียนรู้ และแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สมองได้ทำงานและพัฒนาต่อเนื่อง

4. การพัฒนาทางสังคมและอารมณ์ (Social/Emotional Dimension)

ความสัมพันธ์กับความเชื่อมั่น

ความสัมพันธ์ทั้งหลายนั้นล้วนแต่ตั้งอยู่บนความเชื่อมั่น เชื่อถือ ที่คู่สัมพันธ์มีให้แก่กัน ซึ่งความเชื่อมั่นนี้เป็นผลมาจากผลรวมของอุปนิสัย และสมรรถนะของบุคคล ดังนั้นในทรรศนะของ Covey จึงเห็นว่าในระบบความสัมพันธ์มีสิ่งที่เรียกว่า Emotional Bank ซึ่งเก็บเงินฝากที่เรียกว่า ความเชื่อมั่นเอาไว้ เราสามารถฝาก-ถอนความเชื่อมั่นออกจากบัญชีที่คู่สัมพันธ์ของเราถืออยู่ได้ ไม่ว่าคู่สัมพันธ์ของเราจะเป็นหัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน พนักงาน คนรัก ลูก พ่อ-แม่ เพื่อน ฯลฯ

ฝาก (สร้าง) ความเชื่อมั่น

เราสามารถทำให้ผู้อื่นเชื่อมั่น เชื่อถือในตัวเราได้ด้วยการ

1. “เป็น” คนที่มีจิตใจดี มีจรรยามารยาทที่เหมาะแก่กาละและเทศะ

2. “เป็น” คนที่กล้าที่จะให้คำมั่นสัญญาและสามารถรักษาคำมั่นที่ให้ไว้กับผู้อื่นได้

3. แสดงให้เห็นความคาดหวังที่ชัดเจน

4. ต่อหน้าผู้อื่น “เป็น” อย่างไร ลับหลังอย่างอื่นก็ “เป็น” เช่นนั้น

5. กล้าที่จะขอโทษเมื่อทำผิด

ถอน (ทำลาย) ความเชื่อมั่น

เมื่อเราสร้างความเชื่อมั่นได้ เราก็สามารถทำลายความเชื่อมั่นที่ผู้อื่นมีต่อเราได้เช่นกัน เราสามารถทำลายความเชื่อมั่นที่ผู้อื่นมีต่อเราได้ (หากต้องการ) ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1. “เป็น” คนจิตใจคับแคบ ประพฤติตนอย่างไร้มารยาท

2. ไม่กล้าให้คำมั่นสัญญา หรือให้คำสัญญาไปอย่างส่งๆ แต่ไม่รักษาคำมั่นสัญญานั้น

3. ไม่เคยแสดงความคาดหวังที่ชัดเจนให้ผู้อื่นได้ทราบ

4. ไม่มีความสัตย์ซื่อ หลายมาตรฐาน โกหกหลอกลวงอยู่เป็นนิจ

5. เย่อหยิ่ง ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร

บทส่งท้าย

มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีการพัฒนามาไกลกว่าสัตว์อื่นใดในโลกนี้ มนุษย์ต้องการที่จะนับถือเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองได้ และต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตสังคม ดังนั้นเพื่อพัฒนาให้มนุษย์ก้าวสู่ความสำเร็จได้ จำเป็นที่มนุษย์คนนั้นจะต้องเปลี่ยนแปลงทัศนะต่อตนเองเสียก่อน กล้าที่จะออกไปรับผิดชอบและดูแลชีวิตตนเอง กล้าที่จะตั้งเป้าหมาย และมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายนั้นอย่างเป็นระเบียบ ก้าวเข้าไปมีความสัมพันธ์เพื่อพัฒนาสังคมร่วมกันผ่านการมีความคิดแบบ Win-Win และเปิดใจให้กว้างออก และเหนือไปกว่านั้นคือต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเองในทุกๆด้าน

สิ่งที่จะลืมเสียไม่ได้คือการหยอดกระปุกสร้างยอดฝากความเชื่อมั่นใน Emotional Bank Account ของบุคคลต่างๆที่คุณมีความสัมพันธ์ด้วย

วันนี้คุณสร้าง / ทำลายฐานความสำเร็จในชีวิตของคุณไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว?

Tag:
No items found.
Share this post:
KHON

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024