>
เปิดกลวิธีนำ HR Tech ไปใช้ในองค์กรไซส์ย่อมให้ปังได้ดั่งใจ
May 6, 2023

เปิดกลวิธีนำ HR Tech ไปใช้ในองค์กรไซส์ย่อมให้ปังได้ดั่งใจ

มองไปทางไหนตอนนี้ก็มีแต่คนพูดถึงเทคโนโลยี ทั้งในกระบวนการทำงานต่างๆ จะทำอะไรก็ต้องให้ Disruptive ให้ธุรกิจสามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แม้แต่ในงานบริหารทรัพยากรมนุษย์เอง ก็มีการนำ HR Technology หรือก็คือ การนำเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ เพื่อช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยากจากการทำงาน โดยปรับให้กระบวนการทำงานทั้งหมด หรือกระบวนการทำงานโดยส่วนใหญ่ กลายเป็นระบบดิจิทัล เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานนั้นให้มีความรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูล รวมไปถึงการแบ่งแยกและจัดเก็บข้อมูลที่ครอบคลุม และใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

และหากจะนึกถึงโปรแกรม Software หรือแพลตฟอร์มที่นำมาใช้ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์นั้นมีมากมายมาช้านานแล้วตั้งแต่ Platform สำหรับการเก็บข้อมูลพนักงาน Platform สำหรับการคัดเลือกคนเข้าทำงาน Platform สำหรับการบริหารจัดการด้านเงินเดือนPlatform สำหรับการบริหารจัดการเกี่ยวกับวันลา หรือ Platform สำหรับงานที่มีความละเอียด และเป็น Routine มากๆ เช่น ระบบประกันสังคม ระบบการบันทึกเวลาเข้าออกของพนักงานตามเวลา เป็นต้น

ทั้งนี้ในปัจจุบันองค์กรระดับยักษ์จนถึงระดับใหญ่ต่างก็มีการนำ HR Tech มาใช้ในกระบวนการงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ทั้งสิ้นซึ่งแม้จะมีความยากในการนำมาใช้จริงในองค์กรอยู่บ้างแต่ด้วยทุนและทรัพยากรขององค์กรระดับยักษ์ใหญ่นั้นเปิดโอกาสให้มีการลองผิดลองถูกได้มากกว่าองค์กรระดับเล็กถึงกลางอย่างมากไม่ว่าจะเป็นในแง่ของทรัพยากรเรื่องเงินทุนที่สามารถมีเงินทุนเพียงพอที่จะทดลองโปรแกรม หรือ Platform ต่างๆที่น่าสนใจและคัดเลือกจนได้ Platform ที่ตอบโจทย์กับองค์กรได้ตลอดจนองค์กรขนาดยักษ์ใหญ่สามารถมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีจำนวนเพียงพอที่จะสามารถอุทิศเวลาและความตั้งใจในการปรับเปลี่ยนระบบอย่างจริงจังจะเห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอลหลายองค์กรจะทำการจัดตั้ง PMO Office หรือ Project Management Office เพื่อทำการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนั้นให้เป็นจริงเพราะการที่จะฝากโครงการที่จะเปลี่ยนกระบวนการทำงานทาง HR หรือ Digital Transformation ส่วนใดก็ตามหากไม่ได้มีกลุ่มคนที่ดูแลโดยเฉพาะจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ยากมาก ซึ่งมีสถิติเปิดเผยโดย Pulse of Profession 2021 by PMI ซึ่งสำรวจผู้ทำงานในสายอาชีพผู้จัดการโครงการมากกว่า 3,000 คนทั่วโลก พบว่ามีโครงการมากกว่าร้อยละ 42 ที่ไม่สามารถดำเนินการให้จบภายในระยะเวลาที่กำหนด และมากกว่าร้อยละ 36ใช้งบเกินกว่าที่ประเมินไว้ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงจากองค์กรขนาดใหญ่จึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่าจากการที่มีทรัพยากรทั้งเงินและกำลังคนที่ลงทุนและลงแรงกับเทคโนโลยีนั้นๆได้เต็มที่นั่นเอง

แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่าองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กจะไม่มีสิทธิ์ที่จะนำ HR Tech ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพได้เลยหากแต่กลุ่มองค์กรขนาดกลางและเล็กนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องใช้กลวิธีสักเล็กน้อยในการดำเนินการเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรในวิธีการที่ต่างออกไปเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนเอา HR Tech ไปใช้งานจริงกับองค์กรให้มีประสิทธิภาพอย่างที่ตั้งใจไว้

การนำ HR Tech ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอันที่จริงแล้วก็คือการที่เราจะปรับระบบงานของ HR ให้เปลี่ยนร่างเป็นแบบ Digital มากขึ้น หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นการทำ Digital Transformation แบบย่อมๆก็ว่าได้ ซึ่งในการที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรให้ใช้ HR Tech ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะมี 3 ขั้นตอนด้วยกันที่จะต้องดำเนินการ

ขั้นตอนแรก คือ การ Modernization หรือการทำกระบวนการและ Function งานให้ทันสมัย ก่อนที่จะนำโปรแกรมหรือ HR Tech ใดๆก็ตามมาลงมาปรับใช้กับองค์กร จำเป็นที่จะต้องปรับกระบวนการทำงานของ HR ให้สอดคล้องเข้ากับเทคโนโลยีที่มีด้วย เพื่อให้สามารถนำ HR Tech ที่ลงทุนลงแรงมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่มักจะถูกมองข้ามไปก่อนอยู่บ่อยครั้งเพราะการเปลี่ยนแปลงมาใช้ HR Tech บ่อยครั้งนั้น มักจะเริ่มจากการได้เทคโนโลยีที่สนใจแล้วค่อยมาพิจารณาเรื่องอื่นๆ ตามมาเป็นลำดับถัดไป แต่ความจริงแล้วหากต้องที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ได้ประสิทธิผลอย่างเต็มที่และยั่งยืนนั้นจำเป็นที่จะต้องให้มีการไตร่ตรองถึงกระบวนการทำงาน และ Reprocess ให้การทำงานนั้นง่ายลง ไม่เช่นนั้นการที่องค์กรลงแรง ลงเงินใช้ HR Tech อาจจะแค่โยกย้ายระบบที่แสนโบราณขึ้นไปทำบนคอมพิวเตอร์หรือบนแอพพลิเคชั่นเพียงเท่านั้น

ขั้นตอนที่สอง คือ การนำสร้างการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ให้ถ้วนทั่ว กล่าวคือการนำ HR Tech ไปใช้ไม่ใช่เพียงแต่ว่าย้ายกระบวนการไปอยู่บนออนไลน์เท่านั้น แต่ควรจะต้องมี Mindsetและวิธีคิดที่สนับสนุนการนำ HR Tech เราไปใช้ด้วยยกตัวอย่างเช่น มี Platform เกี่ยวกับการดูแล Employee Experience ของพนักงานก็ควรจะต้องมีการปลูกฝังคนในองค์กรให้มีทักษะและมีความเชื่อในการที่แต่ละคนสามารถดูแลเรื่องต่างๆของตัวเองได้ มีทักษะมีความรู้ด้าน Digital สามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆรวมไปถึงเปิดใจให้ยอมรับ  HR Tech ใหม่ๆที่ต้องดูแลตนเองในระบบ Employee Self Services ด้วย อาจจะกล่าวได้ว่าขั้นตอนนี้คือการสร้างให้คนในองค์กรเรียนรู้ในการใช้ประโยชน์จาก HR Tech ประเภทต่างๆที่องค์กรเลือกใช้งานก็ว่าได้ซึ่งการเรียนรู้นี้เป็นตัวกำหนดทิศทางและความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลง และการนำ HR Tech ไปใช้เลยก็ว่าได้

ขั้นตอนสุดท้าย คือ การสร้างความคุ้นเคยใหม่ให้กับองค์กร ความยากที่แท้จริงในการนำ HR Tech เข้ามาใช้ในองค์กรให้ได้ประสิทธิภาพคือการที่ HR Tech นี้จะต้องกลายเป็นความปกติใหม่ขององค์กร ที่คนในทีม HR เองก็ต้องคุ้นเคยเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์ต่อได้ในขณะเดียวกันพนักงานก็ต้องคุ้นเคยพอที่จะใช้ชีวิต และมีประสบการณ์อยู่บน Platform ใหม่ที่องค์กรได้นำเข้ามาซึ่งในข้อนี้นั้น ผู้นำ ทั้งผู้นำในทีม HRเองและผู้นำในทุกระดับขององค์กรเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยสร้างความคุ้นเคยนี้ให้เกิดขึ้นจริงซึ่งจะเป็นแรงผลักดัน และสนับสนุนให้ HR Tech ที่นำมาใช้นั้นสำเร็จและปัง อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

นอกจากขั้นตอนในการปรับใช้3 ขั้นที่กล่าวมาขั้นต้นแล้วการนำ HR Tech ไปใช้สำหรับองค์กรขนาดกลางและเล็กนั้นยังมีอีก5 ตัวแปรสำคัญที่จะต้องพิจารณาและดำเนินการให้เหมาะสมกับขนาดของบริษัท ดังนี้

              1) Platform – จำเป็นที่จะต้องพิจารณาว่า  Platform หรือโปรแกรมที่เรากำลังจะเอาเข้ามาใช้นี้สนับสนุนเราในเรื่องอะไรสามารถสร้างประโยชน์อะไรกับองค์กรได้บ้าง มีผลในวงกว้างหรือไม่หรือมีผลเพียงแค่คนบางกลุ่ม ซึ่งถ้าหากเป็นองค์กรที่มีขนาดไม่ใหญ่นักลำดับแรกๆที่เราอาจจะพิจารณามาใช้ก่อนอาจจะต้องเป็นเทคโนโลยีที่สนับสนุนคนได้ทั้งองค์กรหรือสนับสนุนวิธีการทำงานโดยรวมขององค์กรเพื่อให้เห็นผลได้ชัดเจนและต่อยอดได้ในอนาคต

              2) Budget - ข้อนี้ทุกๆคนตระหนักกันอยู่แล้วสำหรับองค์กรที่มีขนาดไม่ใหญ่นักเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องพิจารณาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงนี้ซึ่งหากองค์กรยังไม่มีงบประมาณในการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ เราอาจจะเริ่มต้นจากการทำด้วยPowerapp หรือ Low Code เขียนเล็กๆเพื่อมาเป็นจุดเริ่มต้นให้คุ้นเคยและตระหนักถึงกระบวนการก่อนแล้วหากได้ผลดีค่อยนำไปขยายผลต่อไป

              3) Process – กระบวนการเป็นเรื่องสำคัญอย่างที่อ้างถึงไปแล้วตั้งแต่ในเรื่องของขั้นตอนการที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ควรตั้งต้นจากกระบวนการก่อนเป็นสำคัญแล้วจึงค่อยขยับไปเป็นเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อให้ได้ประโยชน์จริงๆไม่ใช่แค่ขั้นตอนเดิมที่ทำได้ยากขึ้น

              4) People - การใช้ HR Tech จะมีผลดีได้ก็ต่อเมื่อคนยอมรับและใช้จริงๆดังนั้นการสร้าง buy-inและการติดอาวุธทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ นอกจากนี้หากองค์กรเล็กๆอาจจะไม่สามารถแยกคนมาทำ PMO เพื่อบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงได้ ก็อาจจะใช้วิธีการหาคนที่มี Passion อยากจะร่วมเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อมาเป็นแนวร่วมในการนำ HR Tech มาใช้ประโยชน์จริงในองค์กรเพื่อให้มีแรงส่งและแรงหนุนนอกเหนือจากทีม HR กันเองก็จะทำให้สามารถขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

              5) Risk Management –ทุกเทคโนโลยีที่นำมาใช้บางครั้งก็อาจจะก่อปัญหาที่ไม่เคยได้เจอหรือไม่เคยคาดคิดมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น การนำ ESS Online มาใช้ บางครั้งก็อาจจะเจอ Bug หรือการหลุดรั่วของข้อมูลในการเริ่มใช้งานเบื้องต้นฉะนั้นก่อนที่จะนำเทคโนโลยีลงมาประยุกต์ใช้ จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงความเสี่ยงและหาวิธีป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อลดความผิดพลาดและที่สำคัญสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ระบบซึ่งก็คือพนักงานของเราอันเป็นพื้นฐานในการเปลี่ยนแปลงมาใช้ HR Tech ให้สำเร็จอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าแม้องค์กรขนาดเล็กจะมีข้อจำกัดหลายๆด้านในการใช้ HR Tech ในองค์กรแต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่องค์กรขนาดเล็กจะปฎิเสธเทคโนโลยีกลับกันจะต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการเพิ่มความสามารถในการดูแลพนักงานด้วยงบประมาณที่จำกัดลงด้วยซ้ำไป จึงเป็นหน้าที่ของเหล่า HR อย่างเราๆที่จะต้องหาสูตรการเปลี่ยนแปลงในฉบับของเราเองที่จะสามารถนำ HR Tech มาพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานเราให้ได้จริงๆและเกิดประโยชน์จริงๆ อย่างที่ตั้งใจ

Ref.

https://hbr.org/2023/05/how-midsize-companies-can-drive-digital-transformation%E0%B8%83

https://hbr.org/2022/09/3-stages-of-a-successful-digital-transformation

Tag:
No items found.
Share this post:
วัฒนศักดิ์ วิบูลย์ชัยกุล

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024