>
องค์กรที่แยก HR เป็นสายออกแบบ (Policy) และ สายปฏิบัติ (Operation) มักเจอกับอะไร
June 12, 2023

องค์กรที่แยก HR เป็นสายออกแบบ (Policy) และ สายปฏิบัติ (Operation) มักเจอกับอะไร

แนวคิดการวางกลุ่มงานหรือหน่วยงาน HR ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ได้รับอิทธิพลไม่น้อยจากแนวคิดของ Dave Ulrich ที่ให้แนวคิดเรื่องบทบาท HR ว่ามี 4 บทบาท คือ > การเป็นหุ้นส่วนกลยุทธ์ > การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง > การเป็นตัวแทนพนักงาน > การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานAdmin

และกรอบแนวคิดข้างต้นได้ส่งอิทธิพลให้องค์กรทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย ได้นำมาวางกลุ่มงานหรือหน่วยงาน HR ภายในองค์กรให้มีงานเป็น 2-3 กลุ่มงาน ประกอบด้วย

> กลุ่มงานที่ทำด้านการอออกแบบนโยบายและแนวปฏิบัติของ HR ที่จะเรียกว่า เป็น HR Policy หรือ HR Strategy & Policy หรือ HR Center of Expertise แล้วแต่องค์กร

> กลุ่มงานที่ทำด้านงานปฏิบัติการด้าน HR ที่จะแบ่งเป็นอีก 2 กลุ่มงาน คือ กลุ่มงานที่เป็น HR Operation & Service และ กลุ่มงานที่เป็น Business Partner ซึ่ง 2 กลุ่มงานนี้ บางองค์กรจะรวบไว้ด้วยกัน บางองค์กรที่มีขนาดใหญ่มาก ก็จะแยกออกจากกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อนำมาสู่การปฏิบัติจริง หลายองค์กรที่นำแนวคิดข้างต้นมาออกแบบหน่วยงาน HR ในองค์กร มักจะเจอกับประเด็นเหล่านี้

1. หน่วยงานออกแบบจะออกแบบด้วยเชื่อว่า นี่เป็นนโยบาย HR ที่ดีที่สุด จากการได้แนวทางจากการศึกษาหรือจากที่ปรึกษานำมาให้ปรับใช้ แต่หน่วยงานปฏิบัติไม่สามารถนำไปปรับใช้ หรือ ผลักดันให้เกิดขึ้นได้ เพราะไม่สอดรับกับสภาพความเป็นจริงขององค์กร

2. หน่วยงานออกแบบจะออกแบบแล้วส่งให้กับหน่วยงานปฏิบัตินำไปปรับใช้โดยไม่มีการสื่อสาร การให้แนวทางอย่างเพียงพอ ทำให้หน่วยงานปฏิบัติไม่รู้ว่าจะไปปรับใช้ ไปเดินต่ออย่างไร

3. เมื่อหน่วยงานปฏิบัตินำนโยบายหรือแนวปฏิบัติไปปรับใช้ แล้วลูกค้าภายในตั้งคำถามหรือมีประเด็น หน่วยงานปฏิบัติมักจะไม่สามารถตอบคำถามในเชิงลึกได้ เพราะไม่ได้เป็นคนออกแบบ และจบลงด้วยการขอมาหาคำตอบจากหน่วยงานออกแบบ

4. ความคาดหวังที่ต่างกัน โดยหน่วยงานออกแบบจะคาดหวังว่า หน่วยงานปฏิบัติจะสามารถนำนโยาย แนวปฏิบัติที่ออกแบบไว้ไปปรับใช้โดยไม่ต้องพึงพาตน แต่ในขณะที่หน่วยงานปฏิบัติก็คาดหวังว่า หน่วยงานออกแบบจะช่วยประคองเป็นพี่เลี้ยงให้ในการปรับใช้จนสำเร็จ

และเมื่อเกิดบรรยากาศการทำงานของหน่วยงาน HR ดังกล่าวข้างต้น ทำให้การทำงานของ HR ขาดการทำงานทึ่เป็นเนื้อเดียวที่เรียกว่า Seamless ซึ่งไม่ได้เพียงเป็นปัญหาเฉพาะในหน่วยงาน HR กันเอง แต่ในสายตาของลูกค้าภายใน จะเกิดการตั้งคำถาม และสงสัยในความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือของหน่วยงาน HR

ทำอย่างไรที่จะลดประเด็นดังกล่าวข้างต้น

ธรรมชาติของการออกแบบที่แยกกลุ่มงานอย่างนั้น จะสร้างความไม่เป็นเนื้อเดียวกันได้ง่าย อย่างไรก็ตาม มีแนวทางที่จะลดประเด็นดังกล่าวได้ ที่เรียกว่า CARE ประกอบด้วย

1. Customer Focused = มองลูกค้าเป็นตัวตั้ง โดย HR ทั้ง 2 กลุ่ม ต้องมอง “ลูกค้าภายนอกองค์กร” เป็นตัวตั้ง เพื่อให้เข้าใจมาถึงสิ่งที่ HR จะสนับสนุนองค์กรได้อย่างถูกจุด แล้วมองใกล้มาถึง”ลูกค้าภายใน”คือ พนักงาน ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น การมองอย่างนี้จะทำให้ HR ทั้ง 2 กลุ่มมีเป้าหมายตั้งต้นเดียวกัน แต่ที่จะเพิ่มขึ้นมาคือ HR ที่ออกแบบจะมีลูกค้าภายในอีกชั้นนั่นคือ HR กลุ่มงานปฏิบัติที่จะต้องนำนโยบายที่ออกแบบไว้ไปปฏิบัติ ดังนั้น ก็จะต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญกับลูกค้าภายในคนนึ้เข่นกัน

2. Alignment = ประสานเนื้อเดียว เมื่อ HR 2 กลุ่มมองลูกค้าภายนอกและลูกค้าภายในเป็นเป้าหมายเดียวกันที่จะต้องทำงานเพื่อตอบสนองลูกค้าแล้ว จะทำให้การออกแบบงาน HR จะไม่ได้เลือกสิ่งที่HR มองว่าเป็น Best Practice แต่จะออกแบบสิ่งที่เป็น Best Fit มากที่สุด และ HR ที่นำไปปฏิบัตินำไปถ่ายทอด ก็จะถ่ายทอดด้วยความเข้าใจลูกค้า ตอบสนองลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ความเป็นเนื้อเดียวของ HR เกิดขึ้นตั้งแต่จุดเริ่มต้นได้

3. Resilience = ล้มเร็วลุกเร็ว HR ทั้งสองกลุ่มจะต้องปลุกปลอบให้กำลังใจกันและกัน เพื่อให้สามารถลุกเร็วหากเจอความท้าทายในการทำงาน เพราะหากต่างฝ่ายต่างละเลยไม่ใส่ใจกันเวลาเผชิญความยากลำบาก บรรยากาศโดยรวมก็จะดิ่งลงไปในทางลบมากยื่งขึ้น

4. Empathy = เห็นอกเห็นใจอย่างเข้าใจ HR ทั้งสองกลุ่มงาน จะต้องเข้าอกเข้าใจกันอย่างแท้จริง รับรู้ข้อจำกัดหรือความยากของอีกฝ่าย กลุ่มออกแบบต้องเข้าใจว่า หน้างานจะเจอความท้าทายอะไร มีความยากอะไร กลุ่มปฏิบัติหน้างานก็ต้องพยายามที่จะให้ข้อมูล รับฟังสิ่งที่กลุ่มออกแบบได้ทำเอาไว้ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง

เป็นมุมมองเชิงประสบการณ์ที่หวังว่าจะช่วยเป็นแนวทางให้ HR ที่มีการออกแบบกลุ่มงานเป็น HR กลุ่มออกแบบ กับ HR กลุ่มปฏิบัติ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือทั้งจากผู้บริหารและพนักงานต่อไป

HR ไร้พรมแดน

Tag:
No items found.
Share this post:
ดิลก ถือกล้า

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024