ปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวทางสังคมของ next generation เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลกผ่านการเข้าถึง social network และการสืบค้นทาง digital ได้เพียงชั่วเวลาไม่กี่นาที คนรุ่นใหม่ หรือที่เราเรียกกันว่า Gen Z (Generation Z) ที่ทางสำนักสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริการคาดว่าจะเข้ามาอยู่ในตลาดแรงงานถึง 30% ในปี 2030 หรืออีก 7 ปีนับจากบทความนี้ได้ถูกเขียนขึ้นมา เราได้เห็นความเคลื่อนไหว หรือ movement ต่าง ๆ จากคนยุคสมัยใหม่หลากหลายกระแสด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมย่อย (sub-culture) การเกิดขึ้นของอาชีพใหม่ ๆ เช่น Virtual Youtuber (Vtuber) กระแสความเคลื่อนไหวทางการเมือง ศาสนา และความเท่าเทียมทางสังคมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศสภาพ หรือเชื้อชาติ
การก้าวเข้ามาสู่วัยทำงานของคนรุ่นใหม่นี้ย่อมมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับบริษัทองค์กร และภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมการทำงานมากขึ้น บริษัท Adobe ได้ทำการสำรวจที่เรียกว่า Adobe’s Future Workforce Study โดยร่วมกับ Advanis ทำการวิจัยกับกลุ่มนักศึกษากำลังจะจบและเพิ่งสำเร็จการศึกษาใหม่ราวๆ 1,028 คน พบว่า 78% มองภาพตลาดแรงงานเป็น“บวก” แม้ตอนนี้สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือ recession เมื่อถามลึกลงไปถึงสาเหตุจึงพบว่าเด็กรุ่นใหม่เฝ้าหวังและรอคอยการเข้าสู่สภาวะการทำงานครั้งแรกของพวกเขา และ 68% มองว่าอนาคตของพวกเขาในตลาดแรงงานจะสดใสอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเด็กกลุ่มนี้นั้นได้ทำการศึกษาเรื่องวินัยทางการเงินมากขึ้นทั้งศึกษาการลงทุนในกองทุนรวม หุ้น หรือสินทรัพย์ดิจิตอลต่าง ๆรวมถึงพยายามวางแผนการใช้เงินการบริหารจัดการหนี้ที่เกิดขึ้นในระหว่างเรียนให้มากที่สุดเพื่อความมั่งคั่งในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน
มุมมองของพวกเขาต่อองค์กรที่จะเข้าไปทำงานด้วยนั้นประกอบไปด้วย3 ปัจจัยหลัก คือผลประกอบการ (55%) ชื่อเสี่ยงและความโด่งดังของแบรนด์ (92%) การดูแลพนักงานและรางวัลต่าง ๆ ที่ได้รับ (89%) ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ เด็กรุ่นใหม่ต้องการทราบ salary range ของตำแหน่งที่ตัวเองสมัครเป็นอันดับแรกในการพิจารณาส่งใบสมัคร (85%) และมีเพียง 16% เท่านั้นที่บอกว่าสนใจจะทำงานกับบริษัทขนาดเล็กหรือ start-up
Work-life balance เป็นปัจจัยสำคัญควบคู่กับเรื่องอัตราเงินเดือนสำหรับเด็กรุ่นนี้ที่จะใช้ในการเลือกว่าจะลงหลักปักฐานกับบริษัทใดที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาและ 75% บอกว่าการทำงานที่ออฟฟิศยังคงมีความสำคัญอยู่จึงอยากเลือกที่ทำงานที่เดินทางสะดวกที่สุด หรือใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยเพื่อจะได้เข้าออฟฟิศได้ในบางวัน
ระบบ Internshipหรือการฝึกงานนั้นกลายเป็นสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่เฝ้ารอคอยกันเนื่องจากพวกเขาคิดว่ามันคือประสบการณ์สำคัญที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะต้องมีก่อนเข้าสู่การทำงานจริงและทักษะที่พวกเขาคิดว่าจำเป็นที่สุดในการทำงานคือ ทักษะในการสื่อสาร
ในขณะที่ฝั่ง PwC ได้ทำการสำรวจในภูมิภาคทีเกี่ยวข้องกับประเทศไทยมากขึ้นโดยการวิจัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของรายงานที่ชื่อว่า Global Workforce Hopes and Fears Survey โดยทำการสำรวจพนักงานในบริษัทต่าง ๆของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวน 19,500 คน โดยตัวเลขที่น่าสนใจคือ 39% รู้สึกว่าองค์กรที่ตัวเองทำงานอยู่นั้นจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้เพียงแค่อีก 10 ปีก่อนที่จะปิดกิจการลง (ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของ CEO ที่กังวลเรื่องเดียวกันถึง 53%) อย่างไรก็ตามผลสำรวจยังพบว่าปริมาณการลาออกจากงานครั้งใหญ่หรือThe Great Resignation ยังคงไม่เกิดในภูมิภาคนี้ โดยความพึงพอใจต่องานปัจจุบันยังคงสูงถึง57% (เกินครึ่ง) ในขณะที่ % แนวโน้มการลาออกอยู่ที่30% โดย 40% คาดหวังว่าจะได้ปรับหรือเลื่อนตำแหน่ง
ลองมาพิจารณาภาพทักษะในการทำงานกันบ้าง 44% เชื่อว่างานที่ตัวเองทำจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบางส่วนหรืออาจจะทั้งหมด และทักษะที่จำเป็นในภูมิภาคนี้คือ ความสามารถในการปรับตัว (69%)ความสามารในการทำงานร่วมกับผู้อื่น (67%) และ Critical Thinking อีก 66%
แรงงานยุคใหม่มองหาวัฒนธรรมองค์กรที่อนุญาตให้ผิดพลาดได้รวมถึงการทำงานเชิงสร้างสรรค์ที่มีการทดลองเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆและมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้ในการทำงานเนื่องจากแรงงานยุคใหม่จะเข้ามาสู่สังคมการทำงานพร้อมกับ Digital Platform ต่าง ๆ ที่ตนเองใช้ในสมัยเรียนไม่ว่าจะเป็นการทำ productivity / note talking / การจัดลำดับการทำงาน/ การรับส่งข้อมูลระหว่างกัน / การจดบันทึก/ การบริหารทรัพยากรต่าง ๆ มีแนวโน้มที่แรงงานสมัยใหม่จะปฏิเสธการทำงานที่ช้าไม่ทันใจ ไม่สามารถตรวจสอบได้แบบ real-time หรือไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบcloud
ดังนั้นในการบริหารแรงงานยุคใหม่ สิ่งที่ HR อาจจะได้รับความท้าทายที่มากขึ้นประกอบไปด้วย
· สภาพแวดล้อมในการทำงาน
· รูปแบบการทำงาน (Hybrid – Remote)
· วัฒนธรรมต่าง ๆ ในที่ทำงาน (การออกจากออฟฟิศตรงเวลา)
· การให้ feedback ผู้บริหารได้
· การทำงานแบบ test and learn และรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่
· การสร้างแบรนด์หรือภาพลักษณ์องค์กรที่มีผลต่อสังคม
· การมีส่วนร่วมของความหลากหลายทางสังคม
· การขึ้นค่าจ้างที่สูงกว่าตลาด
· การเลื่อนขั้นที่ชัดเจน และเป็นธรรม
· การประเมินผลปฏิบัติงานที่โปร่งใส
· การบริหารเวลาส่วนตัวและการบริหารเวลานอกงาน
จะสังเกตเห็นว่า เรื่องต่าง ๆที่พวกเขามุ่งเป้าไปจะเป็นเป้าหมายระยะสั้น-กลาง เรื่อง Life-time หรือ Life Long employment นั้นกลายเป็นเรื่องที่ไม่ถูกพูดถึงแล้วดังที่สะท้อนกับความเชื่อที่ว่าพวกเขามองอายุของบริษัทสั้นเพียงไม่เกิน 10 ปีเท่านั้นนั่นเอง
อ้างอิง: AsiaPacific Workforce Hopes and Fears Survey 2023 | PwC Asia Pacific
.svg)
