>
สิ่งที่คุณต้องรู้ เมื่อจะออกแบบ และเลือกใช้บริการ LMS
July 22, 2021

สิ่งที่คุณต้องรู้ เมื่อจะออกแบบ และเลือกใช้บริการ LMS

เมื่อคุณทราบถึงความสำคัญของการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะความชำนาญ และเพิ่มองค์ความรู้ใหม่ให้พนักงานให้มีสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและรองรับการเติบโตในอนาคตขององค์กร รวมถึงได้เห็นประโยชน์ของการนำเอา LMS มาใช้แล้ว การตัดสินใจเลือกใช้ LMS ยังไม่ใช่สิ่งที่คุณควรทำในทันที

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า การเรียนรู้ การฝึกอบรม และการพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ สำหรับธุรกิจ แต่เป็นการยากที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าพนักงานจะมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้และทำให้การลงทุนใน LMS นั้นมีคุณค่าและสร้างความคุ้มค่าให้องค์กร  

จากการสำรวจของ Harvard Business Review พบว่า 70% ของพนักงานไม่มีความเชี่ยวชาญในทักษะที่จำเป็นในการทำงานและมีพนักงานเพียง 12% ที่ใช้ทักษะใหม่ ๆ จากการฝึกอบรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของพวกเขา แม้ว่าคุณจะลองใช้ LMS แต่คุณจะไม่ได้รับประโยชน์หากไม่ได้รับการออกแบบหรือใช้งานอย่างถูกต้อง

โดยธรรมชาติแล้ว ความต้องการเรียนรู้ของแต่ละคน มีความแตกต่างกัน สิ่งที่ใช้ได้ผลกับบางคนอาจใช้ไม่ได้กับคนอื่น วิธีที่ดีที่สุดในให้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้เรียน คือการเลือก LMS ที่สามารถนำเสนอในรูปแบบ interactive รองรับสื่อและรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายอาทิ  วิดีโอภาพและเสียง การทำ role-plays และ gamification

PeopleStrong ผู้นำด้านการให้บริการเทคโนโลยีเกี่ยวกับการจัดการและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์   และผู้เชี่ยวชาญ ที่มุ่งเน้น การออกแบบชีวิตการทำงานเพื่ออนาคต (New Code of Work) ได้แนะนำเกี่ยวกับกระบวนการก่อนนำ LMS มาใช้ ไว้ดังนี้

ทำให้พนักงานเข้าใจว่าประโยชน์ของหลักสูตร

หน้าที่สำคัญขององค์กร โดยเฉพาะผู้มีหน้าที่โดยตรงในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต้องช่วยให้พนักงานเข้าใจว่าประโยชน์ของหลักสูตร ดังนั้นก่อนการพัฒนาและการนำหลักสูตรการเรียนรู้ไปใช้ ควรสำรวจความท้าทายและปัญหาที่พนักงานกำลังเผชิญอยู่ และควรปรับสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้เรียนอยากรู้และควรเป็นบทเรียนที่ช่วยแก้ไขที่พนักงานเผชิญอยู่อย่างทันท่วงที  หากคุณสามารถแสดงให้เห็นว่าหลักสูตรมีสำคัญ องค์กรก็มีแนวโน้มที่จะเห็นผลตอบแทนจากการลงทุน LMS และอัตราการเรียนรู้สำเร็จตามหลักสูตรของผู้เรียนจะเพิ่มขึ้น

Create education pathways เพื่อช่วยให้พนักงานเข้าใจภาพรวมของการเรียนรู้

ควรออกแบบ การเรียนรู้และการฝึกอบรมให้ง่ายที่สุดสำหรับพนักงานเท่าที่จะทำได้  เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเข้าไปใช้ประโยชน์  ข้อแนะนำเพิ่มเติม คือ ควรใส่คำอธิบายหลักสูตรเพื่อให้พนักงานเข้าใจว่าชั้นเรียนจะครอบคลุมอะไรและจะช่วยพวกเขาในการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการทำงานหรือความก้าวหน้าทางอาชีพได้อย่างไร

ใช้ประโยชน์จากพลังของ AI

AI สามารถช่วยระบุช่องว่างของทักษะที่พนักงานขาด และอุปกรณ์ IoT สามารถช่วยให้พนักงานได้รับการฝึกอบรมเชิงลึกและซับซ้อนโดยไม่จำเป็นต้องจัดกิจกรรมขนาดใหญ่โตหรือใช้ระยะเวลานาน

Mrigank Tripathi รองประธานSaaS ของ PeopleStrong เชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีแนวโน้มหลัก 2 ประการที่ส่งผลต่อการศึกษาออนไลน์ โดย เขาเล่าว่า“ AI จะถูกฝังอยู่ในวิธีการเรียนรู้อย่างมากและ IoT (โดยเฉพาะเลนส์ที่สวมใส่ได้ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต) จะนำไปสู่ การฝึกอบรมตามความต้องการ (training-on-demand)  และ  contextual learning”  ดังนั้นLMS ที่ดีควรสามารถใช้เทคโนโลยีทั้งสองนี้เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่สมจริงและเป็นประโยชน์มากขึ้นให้กับผู้เรียน

ทำให้ใช้งานง่ายที่สุด

ผู้เรียนของคุณควรสามารถเข้าสู่ระบบและค้นหางานที่ได้รับมอบหมายหรือค้นหาการฝึกอบรมในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ซอฟต์แวร์ LMS ควรใช้งานง่าย หากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ขัดขวางประสบการณ์ผู้ใช้ (UI / UX) พนักงานของคุณจะไม่มีแรงจูงใจในการเข้าใช้งาน ในทางตรงกันข้ามหากผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่ติดขัดพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะใช้เวลากับเรียนรู้และลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรที่หลากหลาย

คำนึงถึงบริการให้ความช่วยเหลือและการให้คำแนะนำ

คนส่วนใหญ่แม้กระทั่งผู้ที่เติบโตในโลกดิจิทัลก็ยังไม่คุ้นเคยกับการเรียนรู้ออนไลน์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานของคุณรู้ว่าจะต้องไปที่ไหนหากต้องการความช่วยเหลือ กรณีเลือกใช้ผู้ให้บริการจัดการระบบ LMS ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงระบบ LMS หรือปรับปรุงหลักสูตรและเนื้อหาสำหรับผู้เรียนในอนาคตได้

LMS ที่ดี ต้องสามารถประเมินผลการเรียนรู้ได้

โปรดจำไว้ว่า คุณไม่สามารถช่วยให้พนักงานบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ได้หากคุณไม่ทราบจุดเริ่มต้นจุดสิ้นสุดและความก้าวหน้าระหว่างการเรียนรู้ของพนักงาน ดังนั้นอย่าลืมกำหนดชุดทักษะและความสามารถที่คุณต้องการสำหรับแต่ละบทเรียน   LMS ที่ดีที่สุดควรช่วยให้คุณสามารถวัดผลพนักงานเทียบกับมาตรฐานที่คุณตั้งไว้  ซอฟต์แวร์ LMS บางตัวช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถประเมินผู้ใช้ได้ทันทีในรูปแบบของรายงานด่วน หรือแม้แต่การทดสอบการประเมินโดยใช้ AI นี่จะเป็นวิธีที่ดีในการทำความเข้าใจว่าพนักงานของคุณได้รับการพัฒนาในระดับใด ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณคิดโมดูลและหลักสูตรที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นด้วย

เพื่อเป็น Guideline ให้คุณเข้าใจง่าย PeopleStrong สรุป 10 ขั้นตอนการวางแผนสำหรับการนำ LMS มาใช้ไว้ดังนี้

  1. วางเป้าหมายการเรียนรู้ และ พัฒนาเนื้อหาให้สอดคล้องกัน
  2. กำหนด OKR เพื่อวัดผล
  3. มอบหมายความรับผิดชอบและรวมระบบเข้ากับ IT infrastructure
  4. กำหนดและฝึกอบรมผู้ดูแลระบบ LMS
  5. รวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและ ผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล  ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที  ผู้จัดการการพัฒนาเนื้อหา และ ตัวแทนกลุ่มเป้าหมายการเรียนรู้
  6. ดำเนินการทดสอบกับกลุ่มผู้ใช้ขนาดเล็กเพื่อดูว่าจะปรับปรุงอะไรได้บ้าง
  7. รวบรวมข้อเสนอแนะและปรับการกำหนด LMS ตามข้อเสนอแนะขององค์กร
  8. จัดทำแผนการสื่อสารภายในองค์กร เกี่ยวกับการเปิดตัวการใช้ LMS  เพื่อผลักดันให้มีการนำไปใช้จริง
  9. นำขึ้นระบบจริง และใช้งานจริง
  10. รวบรวมข้อเสนอแนะที่ได้รับจากผู้ใช้จริงและผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องและวัดผลกับ OKRs ที่ตั้งไว้

ออกแบบ LMS ด้วยความเข้าใจความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

สิ่งที่ลืมได้เลย คือ แม้ว่าเป้าหมายหลักของ LMS คือกลุ่มผู้เรียนที่ต้องเอาชนะความท้าทายทางวิชาชีพ แต่ก็ต้องตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ด้วยดังนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ออกแบบระบบ LMS ที่จะทำความเข้าใจความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาทิ

  1. ผู้เรียน  ต้องการเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงจากทุกที่  ต้องการเห็นภาพรวมที่ชัดเจนของการฝึกอบรม ต้องการเนื้อหาที่หลากหลายในรูปแบบต่าง ๆ  และ ต้องการเอกสารประกอบการจบหลักสูตรและหลักฐานแสดงความความก้าวหน้าของการเรียนรู้
  2. ผู้จัดการฝึกอบรม ต้องการจัดเตรียมเนื้อหาการเรียนรู้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ  ต้องการให้ระยะเวลาดำเนินการสั้นลง แต่ต้องได้การฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น  ต้องการรายงานภาพรวมความคืบหน้า และความก้าวหน้าของผลการเรียนและเอกสารการรับรองผลการเรียนของผู้เรียน
  3. ผู้จัดการองค์กร ต้องการมั่นใจว่าระบบที่เลือกใช้ รับประกันความเป็นส่วนตัวและการรักษาความลับ  และต้องการได้ผลลัพธ์ที่นำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนใน บริษัท

คำถามเพื่อการประเมินเมื่อคิดจะเลือกใช้บริการ LMS

มีคำถาม 2-3 ข้อที่คุณสามารถใช้ถามเพื่อประเมินผู้ให้บริการ LMS

ด้านเทคโนโลยี  ควรถามเกี่ยวกับ ระบบมีฟังก์ชันอะไรบ้าง?  ผู้เรียนสามารถใช้ single-sign on (SSO) ได้หรือไม่? มี Sandbox สำหรับการทดสอบหลักสูตรหรือไม่? LMS เป็นสากลหรือ จำกัด เฉพาะบางประเทศ / ภูมิภาค?

ด้านการกำกับดูแล ควรถามเกี่ยวกับ LMS เป็นไปตามกฎหมายความเป็นส่วนตัวในภูมิภาคหรือไม่?  ผู้ให้บริการ LMS เข้าถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างไร?

ด้านการออกแบบ  ควรถามอาทิ LMS สามารถใช้การสร้างแบรนด์องค์กรได้หรือไม่? รูปลักษณ์ของ LMS เป็นอย่างไร?

ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ควรถามเกี่ยวกับ  ระบบมีฟังก์ชันอะไรบ้าง? ผู้เรียนสามารถใช้ single-sign on (SSO) ได้หรือไม่? มี Sandbox สำหรับการทดสอบหลักสูตรหรือไม่?  LMS เป็นสากลหรือ จำกัด เฉพาะบางประเทศ / ภูมิภาค?

เมื่อเลือกผู้ใช้บริการ LMS ให้จัดนัดหมายเพื่อทำการสาธิตหลายๆครั้ง  และอย่าลืมรับฟังมุมมองของผู้ใช้เสมอ ผู้เรียนควรได้รับประสบการณ์ที่ดี จากการเข้าใช้ LMS เช่น รู้สึกสนุกและเป็นประโยชน์  การสร้าง LMS ในองค์กรให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนคุณต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอน ดังนั้นต้องเลือกผู้ให้บริการที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการของคุณและผู้ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการส่งมอบตามความต้องการของคุณ

ด้วยตัวเลือกมากมายในตลาดการเลือกผู้ให้บริการ LMS อาจใช้เวลามากกว่าที่คุณคาดคิด ท้ายที่สุดองค์กรของคุณอาจมีคำถามเฉพาะในใจเช่นแพลตฟอร์ม LMS มีคุณสมบัติที่คุณต้องการหรือไม่หรือเหมาะสมกับงบประมาณการฝึกอบรมของคุณหรือไม่ เพื่อให้กระบวนการตัดสินใจของคุณเร็วขึ้นนี่คือรายการคุณลักษณะ LMS ที่คุณควรพิจารณา

1. มีการติดตามและการรายงานที่มีประสิทธิภาพ  

แพลตฟอร์ม LMS ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับคุณสมบัติการวิเคราะห์และการรายงานที่สร้างไว้ล่วงหน้าซึ่งครอบคลุมตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) และเมตริกที่หลากหลายตั้งแต่อัตราการสำเร็จการศึกษาไปจนถึงการมีส่วนร่วมของผู้เรียน อย่างไรก็ตามแพลตฟอร์ม LMS ที่คุณเลือกควรสามารถสร้างรายงานที่กำหนดเองได้  ให้มองหาซอฟต์แวร์ LMS ที่ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อประเมินช่องว่างทักษะของผู้เรียนโดยอัตโนมัติและให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์แพลตฟอร์ม LMS ที่เปิดใช้งาน AI สามารถติดตามกิจกรรมการเรียนรู้ของพนักงาน  ตรวจสอบประสิทธิภาพของพนักงานและรับข้อมูลเชิงลึกเพื่อประเมินได้อย่างรวดเร็ว   อย่าลืมว่าหากไม่มีความสามารถในการวัดผลจะไม่มีทางที่จะดูได้ว่าพนักงานของคุณใช้ประโยชน์จาก LMS อย่างเต็มที่หรือไม่ นอกจากนั้น AI ยังสามารถลดความซับซ้อนในการติดตามการเข้าร่วมหลักสูตรและขั้นตอนการลงทะเบียน สิ่งนี้ทำให้สามารถทำสิ่งต่างๆเช่นจัดหารหัส QR แก่พนักงานที่พวกเขาสามารถสแกนลงทะเบียนในระบบได้โดยอัตโนมัติ

2. สามารถเข้าใช้ได้ตลอดเวลาและเข้าถึงได้ด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย

โลกปัจจุบันมีการทำงานในรูปแบบ ทีมงานระยะไกล และ การทำงานจากต่างที่กันบนโลกใบนี้ ผู้เรียนในองค์กร  ผู้ฝึกสอน  และคู่ค้า  ต้องสามารถเข้าถึงและซอฟต์แวร์ LMS ขององค์กรได้ทุกเมื่อบนทุกแพลตฟอร์ม เมื่อประเมินความสะดวกในการเข้าถึงซอฟต์แวร์ LMS ให้ลองถามคำถามเช่น:

  • ผู้เรียนสามารถเข้าถึงหลักสูตรการฝึกอบรมออนไลน์ทั้งบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่เช่นสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้หรือไม่? สิ่งนี้จะเปิดโอกาสในการเรียนรู้ที่บ้านระหว่างเดินทางหรือแม้แต่ในที่ประชุม
  • ผู้เรียนในองค์กรสามารถดาวน์โหลดแหล่งข้อมูลการฝึกอบรมออนไลน์และใช้เมื่อออฟไลน์ได้หรือไม่ สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ต่อไปได้แม้ว่าจะไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ตาม
  • ผู้ใช้ล็อกอินเข้าสู่ระบบได้ง่ายหรือไม่? มองหาแพลตฟอร์ม LMS ที่มีการเข้าถึงแบบ single-sign-on (SSO) เพื่อให้สามารถย้ายไปมาระหว่างพอร์ทัลและแอปพลิเคชันต่างๆได้อย่างราบรื่น

3. รองรับหลายภาษา

บริษัท ที่มีพนักงานทั่วโลกสามารถแสวงหาแหล่งข้อมูลการฝึกอบรมและความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากเนื้อหาของแพลตฟอร์ม LMS มีให้บริการในหลายภาษา ประโยชน์หลักบางประการของ LMS ที่รองรับหลายภาษา ได้แก่

  • ความสามารถในการเปลี่ยนไปใช้ภาษาใดก็ได้ที่ผู้ใช้เลือก
  • แพลตฟอร์ม LMS ควรรองรับหลายภาษา และสามารถแปลเนื้อหาได้อย่างมีคุณภาพ  
  • ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งค่าภาษาเริ่มต้นของ LMS เป็นภาษาแม่ของตนได้

4. เป็นระบบอัตโนมัติ

แพลตฟอร์ม LMS ที่มีคุณสมบัติอัตโนมัติสามารถทำให้กระบวนการ อาทิ เพิ่มผู้เรียนจาก database ,การแจ้งเตือนผู้เรียน รวมถึงการออก certificate ให้ผู้ผ่านการประเมิน เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เมื่อจะเลือกใช้บริการ LMS จงมองหาซอฟต์แวร์ที่สามารถทำให้ฟังก์ชันเหล่านี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ

  • เพิ่มผู้เรียนโดยอัตโนมัติโดยเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์การจัดการทรัพยากรบุคคลหรือแพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)
  • แนะนำผู้เรียนขององค์กรด้วยการแจ้งเตือนและการแจ้งเตือนอัตโนมัติ
  • รองรับการเข้าใช้งานแบบ Single Sign-On โดย ระบบสามารถยืนยันตัวบุคคล (Authentication) ที่รองรับการให้ผู้ใช้งานลงชื่อเข้าใช้งานระบบ (Login) ครั้งเดียว แล้วสามารถเข้าใช้งานระบบหลายระบบได้ โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าใช้งานซ้ำอีก
  • ส่งรายงานความก้าวหน้าของผู้ฝึกสอนและผู้จัดการโดยอัตโนมัติ
  • การออก certificate ให้ผู้ผ่านการประเมิน เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
  • ลงทะเบียนผู้เรียนรายบุคคลหรือกลุ่มผู้เรียน (ตามแผนกทีมหรือโครงการเฉพาะกิจ) โดยอัตโนมัติ

5. สามารถสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลเพื่อปลูกฝังความไว้วางใจให้กับผู้ใช้งานได้

โปรดจำไว้ว่าไม่มีสององค์กรที่เหมือนกันและไม่มีผู้เรียนสองคนที่มีแนวทางในการเรียนรู้เหมือนกัน นี่คือเหตุผลที่ LMS ของคุณควรมีความสามารถในการจัดหาเส้นทางการเรียนรู้ส่วนบุคคลสำหรับพนักงานทุกคนในองค์กรของคุณ อย่างน้อยที่สุดแพลตฟอร์ม LMS ของคุณควรอนุญาตให้ผู้สอนปรับแต่ง user interface และเนื้อหาได้ เช่น สามารถกำหนดภาษาเฉพาะให้กับทีมในภูมิภาคและประเทศต่าง ๆ ได้หรือไม่? สิ่งเล็กน้อยเช่นนี้จะช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับ LMS ของคุณได้มาก

6. รองรับ Customizability

LMS ของคุณควรให้คุณจัดหาแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ออนไลน์ส่วนบุคคลสำหรับผู้เรียนบางราย ตัวอย่างเช่นคุณอาจกำลังเปิดบทบาทใหม่ทั้งหมดที่ต้องใช้เส้นทางการฝึกอบรมเฉพาะบุคคลที่ต้องใช้โมดูลและทรัพยากรที่แตกต่างกัน LMS ที่ให้คุณเปิดหรือปิดใช้งานโมดูลบางอย่างตามดุลยพินิจของคุณได้  หรือ บางโครงการและผู้เรียนอาจต้องการการเรียนรู้แบบผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งหมายความว่าแพลตฟอร์ม LMS ของคุณควรมาพร้อมกับแอพที่เป็นกรรมสิทธิ์สำหรับการอ่านแบบออฟไลน์หรือดูสื่อการเรียนรู้ (เช่น webinars, videos, presentations)

ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ LMS หรือ เลือกใช้ผู้ให้บริการ LMS โปรดอย่าลืมอ่านบทความฉบับนี้ เพื่อการลงทุนที่คุ้มค่ากับองค์กร และ เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีให้พนักงาน ทุกองค์กร

บุญชู มัลโฮตรา Peoplestrong

Tag:
No items found.
Share this post:
KHON

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.
No items found.
Global trend to VUCA World
แนวโน้มการจ้างงานใหม่ของทั้งโลกจะอยู่ที่เอเชีย ในยุโรปจะมีแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่คนชั้นกลางประมาณ 54 เปอร์เซ็นต์จะอยู่ในเอเชีย เพราะฉะนั้นเอเชียจึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการลงทุน ทำการค้าและอุตสาหกรรม ในเอเชีย ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ฮ่องกง แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น จากจุดเล็ก ๆ เรื่องการเลือกตั้งทำให้ลุกลามไปเป็นใหญ่และยังไม่จบสิ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยาวนาน ส่งผลต่อการค้าการทำธุรกิจ ถ้าพิจารณาทั่วโลกจะพบว่ามีความขัดแย้งแบบนี้ทั้งในประเทศฝรั่งเศส อียิปต์ อังกฤษ ถ้าหากธุรกิจที่ดำเนินไปด้วยดี แล้วก็มีการประท้วงขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และในสมัยนี้มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการนัดประท้วงผ่านทาง facebook นัดหมายผ่านทาง twitter ให้มารวมตัวกัน และแสดงให้โลกเห็นผลกระทบของการประท้วงผ่านทาง youtube จะเห็นได้ว่า Social Technology เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพ แวดล้อมของการแข่งขันการทำธุรกิจ ประกอบกับ Social movement ทำให้หลายเรื่องไม่สามารถควบคุมได้ คาดการณ์ไม่ได้ เกิดอย่างรวดเร็วรุนแรง และถ้าเราไม่สามารถควบคุมให้ดี ผลเสียที่จะเกิดแก่ธุรกิจย่อมจะมากขึ้น
December 18, 2025
No items found.
AI จะมาแย่งงานคน HR ได้หรือไม่
กระแสของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่ได้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เห็นความฉลาดที่มันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คนเราจะทำได้ ทั้งทำได้มากกว่า เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้สร้างให้เกิดความรู้สึกทั้งความตื่นเต้นกับความมหัศจรรย์ของ AI และความวิตกกังวลว่า เราจะถูก AI แย่งงาน เกิดความกังวลไปทุกๆสาขาวิชาชีพ ไม่เว้นแม้เเต่งาน HR
March 27, 2025
No items found.
ใช้ AI โดยยังให้คุณค่ากับความเป็นมนุษย์ด้วย PRIDE
ปฏิเสธไมได้ว่า การนำ AI มาใช้ในองค์กรกำลังกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เป็นทางรอดไม่ใช่ทางเลือกขององค์กร แต่ข้อที่เป็นความกังวลคือ การใช้ AI อย่างไรที่ไม่ทำให้คนในองค์กรรู้สึกถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์ด้วยความสามารถที่เหมือนจะด้อยกว่า AI
December 19, 2024