ในยุคที่เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังขับเคลื่อนโลกให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง “หัวใจของมนุษย์” กลับกลายเป็นสิ่งที่ทรงพลังยิ่งกว่าในการสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนแปลงองค์กรให้มีชีวิต นี่คือบทเรียนสำคัญจากประสบการณ์ของ คุณวู้ดดี้ มิลินทจินดา CEO แห่ง WOODY WORLD ที่ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำเชิงบริหาร มาสวมบทบาทใหม่ในฐานะ Head of People (HoP) ขององค์กร—ไม่ใช่เพื่อควบคุม แต่เพื่อเข้าใจและอยู่เคียงข้างพนักงานอย่างแท้จริง
กล้าที่จะปรับมายเซ็ต: เมื่อ CEO เปลี่ยนบทบาทเพื่อเรียนรู้หัวใจของผู้คน
หนึ่งในเรื่องราวที่น่าประทับใจ คือช่วงเวลาที่คุณวู้ดดี้ ตัดสินใจพูดกับหัวหน้า HR ว่า
“แนน พี่ขอ take ตำแหน่งของเธอนะ”
คำพูดเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ นำไปสู่บทบาทใหม่ที่ไม่ได้เป็นเพียงการ “สวมหมวก” ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล แต่เป็นการเปิดใจเรียนรู้ เข้าใจ และสัมผัสชีวิตพนักงานอย่างลึกซึ้ง
คุณวู้ดดี้เลือกที่จะ “กล้า fail ทุกวัน” ซึ่งไม่ได้หมายถึงการล้มเหลวในความหมายทั่วไป แต่หมายถึงการ “Found Another Important Lesson” คือการค้นพบบทเรียนสำคัญใหม่ ๆ ในทุกวัน ที่ทำให้เขาเข้าใจคนมากขึ้น ก้าวเข้าไปใกล้หัวใจพนักงานมากขึ้น และพร้อมจะกอด ร้องไห้ และร่วมอยู่ในความรู้สึกร่วมกันโดยไม่มีระยะห่างของตำแหน่ง
จากจุดนั้น มุมมองของ CEO ได้เปลี่ยนไป เขาไม่ได้มองบทบาทของ Head of People เป็นเพียงการรับฟัง หรือจัดการปัญหาของพนักงาน แต่คือการทำงานร่วมกันอย่างเท่าเทียม จากจุดยืนที่เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ในทุกบทบาท
“ผมได้เห็นความหลากหลายของคน ได้สัมผัสพลังงานที่แตกต่าง บางคนเป็นดิน บางคนเป็นน้ำ เป็นลม หรือเป็นไฟ แล้วแต่บทบาทของแต่ละคนในองค์กร ทุกคนล้วนมีคุณค่าที่เติมเต็มกันและกันได้”
อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะมีค่านิยมเหมือนผู้นำเสมอ บางคนเพียงแค่มาทำงานให้เสร็จแล้วกลับบ้าน แต่ในช่องว่างของความแตกต่างนั้น หากเรากล้าที่จะ “โอบกอดความไม่เหมือน” และสร้าง “จุดหมายร่วม” (Purpose) ด้วยกัน เราจะสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ลึกขึ้น และสร้างองค์กรที่มีหัวใจของความเข้าใจอย่างแท้จริง
HR: หัวใจที่มีเมตตาขององค์กร
ในมุมมองของคุณวู้ดดี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลไม่ใช่เพียงแค่หน่วยสนับสนุนภายในองค์กร แต่คือ “หัวใจ” ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ความเข้าใจ และพลังเงียบที่หล่อเลี้ยงคนทั้งองค์กรให้เดินต่อไปได้
HR คือผู้รับฟังเรื่องราวของพนักงานมากมาย ทั้งเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ เรื่องที่ซับซ้อน หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่มีคำตอบแน่ชัด แต่คุณวู้ดดี้กลับมองว่าความอดทนและความใส่ใจของ HR นั้นมีคุณค่ามหาศาลเกินกว่าจะถูกมองข้าม
“เราไม่ต้องรอให้ใครมาปรบมือให้ เราควรปรบมือให้ตัวเองก่อน”
คือคำที่คุณวู้ดดี้ฝากไว้เพื่อย้ำว่า HR เองก็ควรได้รับกำลังใจ และเห็นคุณค่าของบทบาทตนเองเช่นกัน
ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความกดดัน HR คือคนที่ยังยืนหยัดฟัง เข้าใจ และทำหน้าที่ดูแลคนในองค์กรด้วยความรู้สึกอย่างแท้จริง
“คุณไม่ใช่แค่บุคคลสำคัญในบริษัท แต่คุณคือหัวใจ คือคนที่เมตตามากที่สุดในองค์กร”
คือประโยคที่บอกชัดว่า องค์กรใดก็ตามที่มี HR ที่เข้าใจคน ย่อมมีพลังในการสร้างความเชื่อมั่น และจุดไฟศรัทธาให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำงานอย่างมีความหมายอีกครั้ง
Spiritual x Intelligence: เติมพลังทางใจในยุค AI
อีกบทเรียนสำคัญจากการเผชิญอาการ Panic ที่ปะทุขึ้นในช่วงปี 2020 เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณวู้ดดี้กล้าที่จะปรับมุมมองของตนเอง ในขณะที่เทคโนโลยี A.I. กำลังปฏิวัติด้วย “Intelligence” การให้ความสำคัญกับ "Spiritual" หรือพลังทางใจ กลับกลายเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อก่อนความสุขของเราอาจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์อย่างตัวเลขหรือผลกำไร ความสำเร็จที่แท้จริงอาจะไม่ได้สิ่งที่เราต้องแลกมา แต่อาจเป็นสิ่งที่เราเติมให้กับตัวเองได้ทุกวันอย่างความสุขที่แท้จริง แต่ในยุคนี้ทั้งสองด้านต้องขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กัน หากมีโอกาส คุณวู้ดดี้จะมาแชร์การตั้งเป้าหมายสำหรับครึ่งปีหลังนี้ของให้ทีมทุกคนต้องใช้ AI เพื่อเราก้าวล้ำไปข้างหน้าได้และช่วยให้หัวใจได้ทำในสิ่งที่มีความหมายและแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับคนอื่นในสังคม
นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจของการจัดงาน Dragonfly Summit ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2024 ในธีมงานฮีลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ผ่านความเชื่อของการ Lead Well Retreat to Advance Retreat ให้คนทำงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นระดับองค์กร หัวหน้าฝ่าย เจ้าของธุรกิจ หรือหัวหน้ารอบครัว ใครก็ตามที่ไม่ว่าจะอยู่ในจุดไหนที่ต้องการปลุกพลัง ฟื้นฟูสุขภาพใจ ด้วยการลองถอยหลังมาลองประสบการณ์ใหม่ ๆ จากศาสตร์และศิลป์โดยจากสปีคเกอร์และผู้นำทางจิตวิญญาณทั่วโลก อีกไม่นานเกินรองานนี้จะกลับมาอีกครั้งในเดือนกันยายน 2025 นี้
บทเรียนจาก CEO: การเป็นผู้นำที่มีหัวใจ
การเดินทางครั้งนี้ของคุณวู้ดดี้ คือการพลิกบทบาทจากผู้นำที่อยู่เบื้องบน สู่การเรียนรู้หัวใจของคนในองค์กรอย่างลึกซึ้ง ท่ามกลางกระแสของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง สิ่งที่ทรงพลังไม่แพ้ความก้าวหน้าคือ “ความกล้าที่จะปรับมายเซ็ต” เพื่อเปิดรับฟัง เข้าใจ และเดินเคียงข้างทีมงานอย่างจริงใจ
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดส่วนตัวของผู้นำ แต่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ วัฒนธรรมที่นำด้วยความรัก ความไว้ใจ และการมองเห็นคุณค่าของผู้คน
บทเรียนที่สำคัญจึงไม่ใช่เพียงการพาองค์กรให้ก้าวทันโลก แต่คือการพาทุกคนเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความสุข มั่นคง และยั่งยืนในที่ทำงานที่มีหัวใจ
.svg)
