Building Trust During Geopolitical and AI Mega Trend Shifts

ในโลกที่การเปลี่ยนแปลงไม่เคยหยุดนิ่ง คำถาม “วันนี้โลกกำลังเผชิญกับอะไร?” อาจดูธรรมดา แต่กลับเปิดประตูสู่ประเด็นสำคัญที่สุดของยุคสมัย — นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) และกระแสการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) โลกหลายขั้ว และพันธมิตรที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

Kulwant Singh Bardh เริ่มต้นด้วยคำถามสะท้อนใจ: “แล้วใครกำลังควบคุมภูมิศาสตร์การเมืองโลก?” คำตอบยังคงวนเวียนอยู่ที่กลุ่มประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย ประเทศที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางของโลกและสร้างความผันผวนในระดับระบบ ภายใต้ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีพันธมิตรใดแน่นอนอีกต่อไปในยุค Geopolitical Uncertainty

‍

เมื่อ AI กลายเป็นตัวเร่งกระแสความเปลี่ยนแปลง

ด้วยบทบาทที่ทวีความสำคัญของ AI อีกคำถามสำคัญที่ผู้นำไม่ควรมองข้ามคือ “ใครลงทุนใน AI มากที่สุดในโลก?” จากข้อมูลของ Stanford University ปี 2024 พบว่า 7 ประเทศที่มีการลงทุนด้าน AI สูงสุดต่อหัวประชากร ได้แก่ สิงคโปร์, UAE, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, สหภาพยุโรป, ไทย และจีน เป็นสัญญาณว่าประเทศไทยเองกำลังก้าวเข้าสู่สมรภูมิแห่งการแข่งขัน AI อย่างมีนัยสำคัญ

พร้อมกันนั้น ข้อมูลจาก Oxford University ยังเผยให้เห็นว่า ประเทศที่ลงทุนใน AI สูง มักจะมี "ความพร้อม" (Readiness) ในการใช้งาน AI สูงด้วยเช่นกัน นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันเรื่องเม็ดเงิน แต่เป็นการแข่งขันเรื่องศักยภาพของระบบและคน

‍

Trust: ความเชื่อมั่นคือสินทรัพย์ที่องค์กรต้องปกป้อง

สิ่งที่เชื่อมโยงประเด็นภูมิรัฐศาสตร์และ AI เข้าหากันคือ "Trust" หรือความเชื่อมั่น ที่วันนี้ไม่ใช่เรื่องของนโยบายระดับชาติเท่านั้น แต่ส่งผลลึกถึงวัฒนธรรมองค์กร โดยเฉพาะฝ่ายทรัพยากรบุคคล

‍

จากผลสำรวจ Edelman Trust Barometer 2025 พบว่า ช่องว่างความเชื่อมั่นระหว่างพนักงานรายได้สูงและรายได้ต่ำกำลังขยายตัวอย่างน่ากังวล คนที่มีรายได้ต่ำมีแนวโน้มไม่ไว้วางใจ AI และไม่เชื่อมั่นในองค์กรเท่ากับกลุ่มรายได้สูง HR จึงต้องรับบทบาท “ผู้รักษาสมดุลความไว้วางใจ” ท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและบริบททางสังคมที่เปลี่ยนไป

‍

สามแรงสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นในองค์กร (The 3 Disruptors):

ความไว้วางใจไม่ได้สูญเสียเพียงภายนอก แต่มักสึกกร่อนจากภายใน

ภูมิรัฐศาสตร์สร้างความไม่แน่นอน และ AI ทำให้ความไม่แน่นอนนั้นขยายตัว

เมื่อองค์กรนิ่งเฉยหรือแสดงท่าทีเกินเหตุ ความไว้วางใจจะค่อยๆ หายไป

บทบาทของ HR ในการสร้างวัฒนธรรมความไว้วางใจ

‍

Kulwant สรุปบทเรียนให้กับผู้นำ HR ไว้อย่างชัดเจนว่า “องค์กรที่สามารถสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจจากภายใน จะเป็นองค์กรที่รับมือกับความไม่แน่นอนของโลกภายนอกได้ดีที่สุด” ซึ่งความไว้วางใจนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มจากฝ่าย HR และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก CEO และทีมผู้บริหารระดับสูง

‍

#ThailandHRTech2025 #PMAT

Tag:

Article

Share this post:

มุทิตา กุลศิลารัตน

Related Knowledge Hub

Join for free and get personalized recommendations, updates and offers.

View All

Article

The Great Inflection: ประเทศไทยบนขอบเหว - จะเปลี่ยนหรือจะปล่อย

ประเทศไทยบนเส้นกราฟ “จุดหักศอก” ของประวัติศาสตร์ “ประเทศไทยอยู่ในจุดที่ต้องเลือกแล้วว่า… จะเลี่ยงการเป็น Blackberry แต่พลิกมาเป็น Apple ได้อย่างไร ประโยคเปิดเวทีของคุณทัส ทำให้ทั้งห้องประชุมเพ่งความสนใจไปในจุดเดียวกัน เพราะต้องการทราบว่าทางเลือกทั้งสองต่างกันอย่างไรและเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างไร ในโลกที่เราไม่สามารถศึกษารูปแบบความเป็นไปของอดีตเพียงอย่างเดียว เพื่อวางแผนอนาคต และ ในโลกที่การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เส้นตรง แต่พร้อมจะ “หักศอก” ได้ตลอดเวลา ใครที่ยังคิดว่าแค่ “ทำเหมือนเคย เผื่อไว้รับมือความผันผวนบ้าง แล้วจะรอดได้” ความคิดเช่นนั้นอาจะเป็นจุดเริ่มของจุดจบในโลกใหม่ ‍คุณทัส พาเราย้อนดูบทเรียนในชีวิตจริงจากธุรกิจในโลกใหม่ซึ่งแม้จะมีหลายชื่อ เช่น New Economy, Platform Economy, Collaborative Economy แต่ต่างมีบทสรุปเดียวกันคือองค์กรไม่ได้ล้มเพราะขีดความสามารถลดลง แต่ ล้มเพราะความสามารถที่มีใช้ไม่ได้กับโลกและความต้องการที่เปลี่ยนไป”

November 24, 2025

Article

7 เหตุผลที่คุณต้องมาฟัง Dave Ulrich ในงาน HR DAY – PMAT 60th Anniversary International HR Conference

หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ก่อนหน้าที่ทาง PMAT จะได้มีโอกาสเชิญบุคลากรผู้ทรงคุณค่าในวงการ HR อย่างศาสตราจารย์ Dave Ulrich มาปรากฏตัวที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกนั้น หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า HR Competency กันมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำว่า Employee Champion (ผมแปลเองเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า ผู้ชนะใจพนักงาน) เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว โลกของเรายังไม่ก้าวหน้ารวดเร็วเท่ากับยุคปัจจุบัน การเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ใน internet ก็ทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในระดับที่ “ทันกับเวลา” จึงทำให้ HR หลาย ๆ ท่านเจอกำแพงอุปสรรคของการพัฒนาตนเอง เพราะเนื่องจากยังไม่เข้าใจบริบทในภาพกว้างของโลก / ธุรกิจ จึงยึดติดกับการพัฒนางานของตนเองในระดับปฏิบัติการมากกว่า อาทิเช่น ทักษะการใช้เครื่องมือนำเสนอ หรือทักษะการใช้การจัดเก็บความรู้ แต่เรายังไม่เข้าใจถึงแก่นว่าเพราะอะไรทำไมเราถึงต้องลุกขึ้นมาปัดฝุ่นการทำงานของเรา (HR Role and Competency) ให้ขึ้นมามีบทบาททางธุรกิจมากขึ้น และคนที่สะกิดบอกทั้งโลกว่า “เฮ้! งาน HR มันคืองานในระดับธุรกิจนะ” ก็คือ อาจารย์ Dave นี่เอง

October 7, 2025

Article

“ทำไม HR ต้องมีความกล้า” คำถามที่ท้าทายจาก Dave Ulrich

ชื่อของ Dave Ulrich ได้เป็นที่ยอมรับจากนักบริหารและผู้นำจากทั่วโลกว่า เป็นหนึ่งใน Guru ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาภาวะผู้นำที่ทรงอิทธิพลทางความคิดในระดับที่ปรับโฉมการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นระยะ เพราะสิ่งที่ Dave Ulrich นำเสนอผ่านการเขียน การเดินทางไปบรรยายทั่วโลกด้วยมุมมอง แนวคิดที่ตกผลึกมาจากงานวิจัยอย่างลงลึกต่อเนื่อง ทำให้กรอบแนวคิดแต่ละช่วงเวลาของท่านได้สร้างแรงกระเพื่อมในวงการบริหารไปทั่วโลก

October 5, 2025